วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่มที่ 1 ตอนที่ 7 ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ (Maestro of Battles)

เล่มที่ 1 ตอนที่ 7 ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้  (Maestro of Battles)

(Maestro =  ปรมาจารย์,ผู้เชี่ยวชาญ, ผู้ชี้นำทางดนตรี(มักใช้เรียกConductor ในการบรรเลงเพลงClassic)
(Battle =  การต่อสู้)
#################################################

ถ้ำสัตว์ร้ายแห่งลิตวาร์ต  ตั้งอยู่ ณ ทางเข้าของ หุบเขามรณะ (Grave Mountain)
ถ้าเดินทางด้วยม้า  จากป้อมปราการ จะใช้เวลาเดินทาง  3 ชั่วโมง
เจ้าลูกม้าหนุ่ม ที่ วีด นั่งมานั้น มันมักจะชอบเถลไถล เป็นบางครั้ง  ถึงขนาดหยุดเล็มหญ้าอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว  เขาต้องหลอกล่อมันให้กลับเข้าเส้นทางเสมอๆ
ณ ทางเข้าถ้ำ  ทหารที่มีหน้าที่่ดูแลม้า กำลังรอเขาอยู่
"จอห์นสัน ดูแลม้าดีๆด้วย"
"รับทราบ"
กองกำลังที่นำโดย เซอร์ มิดเวล ปล่อยม้าให้เป็นหน้าที่ของ จอห์นสัน และ เดินเข้าไปในถ้ำ
วีดรู้สึกสบายใจที่เจ้าลูกม้าตัวนี้ไปพ้นๆซะ
"เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้!"
"ตั้งขบวนรบ!" กองกำลังกวาดล้าง ยกโล่เหล็กทรงกลมขึ้นป้องกันตัวเองและ อีกมือหนึ่งนั้นก็ถือหอกและดาบไว้เป็นอาวุธ
เทียบกับพวกเขาแล้ว   วีด ดูน่าสงสาร  เขามีแค่ดาบเหล็ก และธนู
เซอร์ มิดเวล ในชุดเกราะโซ่เหล็ก เดินเข้ามาหาเขา
"ท่านมีแค่นั้นงั้นหรือ ท่าน วีด ?"
"ครับ"
"ท่านมีอาวุธที่ไม่เหมาะกับการสู้ในแนวหน้า  ข้าคิดว่าท่านควรยืนในแนวหลังและคอยสนับสนุนกองทหารจะดีกว่า"
"ได้ครับ"
กองกำลัง ถือโล่และเดินแถวเข้าไปในถ้ำ  วีดเดินตามพวกเขาเข้าไป
เมื่อเข้าไปได้เล็กน้อย  พวกเขาสังเกตเห็น โคบอล์ด ห้าตัวกำลังตั้งแคมป์ไฟอยู่  และกำลังทำอาหารบางอย่าง
ทันทีที่เห็นกองทหาร พวกมัน ดีดตัวขึ้นยืนและ...
"แกร๊กกกก"
"ศัตรู! มนุษย์ โจมตี!"
พวกโคบอล์ด เป็นมอนสเตอร์ขนาดกลาง เลเวล 20
สูงไม่ถึง4ฟุต  มีอาวุธเป็นโล่ไม้หยาบๆ และดาบทองสัมฤทธิ์
"ฆ่า  ฆ่าๆ!"
"ไล่พวกปีศาจมนุษย์ออกไป  พวกมันทำลายบ้านของเรา!  จงลุกขึ้น  นักรบโคบอล์ดผู้กล้าหาญ!"
เมื่อพวกโคบอล์ดพุ่งเข้ามา  เหล่าทหารเริ่มตึงเครียด
พวกเขาเป็นพวกเข้าใหม่  เพิ่งออกจากค่ายฝึกทหาร ซึ่งไม่เคยเข้าร่วมการต่อสู้ที่ไหนมาก่อน

วีด  มองไปที่ เซอร์ มิดเวล
อัศวินมองผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาด้วยสายตาที่นิ่งเฉย ราวกับว่าต่อให้มีการบาดเจ็บหรือตายก็ยอมรับได้
'อัศวินควรที่จะดูแลทหารของเขาไม่ใช่รึ? บางทีเขาอาจจะอยากให้พวกทหารได้ลองประสบการณ์ต่อสู้ครั้งแรกด้วยตัวเอง'  วีด คิด
เหล่าทหาร จัดขบวนเป็นหน้ากระดาน และชาร์จใส่พวกโคบอล์ด
โคบอล์ดสองตัวยิงหินด้วยหนังสติ๊ก แต่มันสร้างปัญหาให้กองทหารน้อยมาก
ด้วยจำนวนที่เยอะกว่าและอาวุธที่ดีกว่า  กองทหารได้ชัยเหนือพวกโคบอล์ด  โดยที่บาดเจ็บเล็กน้อย
ทุกครั้งที่โคบอล์ดล้มลง  เศษโลหะชิ้นเล็กๆ ก็จะตกลงบนพื้น
"บูเรน, เบคเกอร์, เก็บของ"
ชื่อของทหารสองคนถูก เซอร์ มิดเวล เรียกออกมาให้เก็บเศษโลหะ ที่เป็นทองแดง หรือเหล็กหลอมที่มูลค่าเพียงเล็กน้อย
เหตุผลที่อาณาจักรส่งกองกำลังออกมา  นอกจากการฝึกทหารใหม่และรักษาความปลอดภัยให้พื้นที่รอบนอกแล้ว   ก็คือการรวบรวมวัสดุอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มเงินในคลัง
'เราต้อง เริ่มลงมือบ้างแล้ว...' วีด กล่าวกับตัวเอง

ในการต่อสู้ครั้งต่อมา  เขาหยิบธนูขึ้นมา และเล็งไปที่คอของโคบอล์ด
'กลั้นหายใจ  ควบคุมมือให้มั่นคง และเล็งไปที่เป้าหมาย'
* ฟิ้วววว*
ด้วยค่าความแม่นยำและ ผลจากสกิลงานฝีมือที่เขามี  ทำให้ลูกธนูพุ่งไปที่โคบอล์ดอย่างแม่นยำ
เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น!
เมื่อ วีด แจมโคบอล์ดไปได้  3 ตัว  หน้าต่างเลเวลอัพ ก็โผล่ขึ้นมา
โคบอล์ดพวกนี้เลเวลมากกว่า 20 จึงทำให้ วีด ที่มีเลเวลแค่13 ได้ EXPs มหาศาล
ทุกครั้งที่ลูกธนูของเขาโดนโคบอล์ดตัวใด  โคบอล์ดตัวนั้นก็จะล้มลงทันที เพราะ  เขาจะเลือกตัวที่ใกล้จะตายแล้วเท่านั้น
ช่างแยบยลยิ่งนัก  , วีด ลอบโจมตีใส่โคบอล์ดอย่างง่ายดายจากด้านหลัง ในขณะที่เหล่าทหารเสี่ยงชีวิตในแนวหน้า
มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยและเห็นแก่ตัว
นักวางเพลิงที่เผาบ้าน ยังดูเป็นนักบุญมากกว่า เพื่อนบ้านที่ขโมยเครื่องลายครามและเพชรจากบ้านที่โดนเผาเลยว่าไหม?
(An arsonist torching a house is more of a saint than the neighbor plundering jewelry and china from the burning house , isn't he?)

สิ่งที่ วีดทำช่างเลวร้าย  มันเป็นการดูดเอาประโยชน์จากเพื่อนร่วมรบที่กำลังอาบเหงื่ออาบเลือดจากการต่อสู้กับมอนสเตอร์
คนดีไม่ควรหาประโยชน์ใส่ตัวเช่นนี้
ในทางตรงกันข้าม  วีด ก็รู้ว่าวิธีนี้จะส่งผลเลวร้ายกลับมา เมื่อพวกทหารเริ่มรู้ตัว และวิจารณ์เขา
ลองนึกดูว่า พวกเขาจะรู้สึกว่ายังไงถ้าโคบอล์ดที่ใกล้ตายเต็มทีด้วยมือของเขา ต้องตกตายเพราะธนูจากที่ไหนไม่รู้
วีด จึงเลือกยิงเฉพาะโคบอล์ดที่กำลังวิ่งหนีเอาตัวรอด  ไม่ก็เมื่อตอนที่ทหารกำลังต้องการความช่วยเหลือเพราะถูกโคบอล์ดสองหรือสามตัวล้อม

.
.
.


*****************************

เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น!

วีด ยิ้มอย่างมีความสุขทุกครั้งที่ โคบอล์ดตกตายลง
ในขณะที่ทหารคนอื่นต่อสู้อย่างยากลำบาก
สิ่งที่เขาต้องทำก็แค่ ยิงธนูจากสถานที่ๆ ปลอดภัย
จะมีอะไรง่ายกว่านี้อีกไหม?
เลเวลของ วีด เพิ่มขึ้นแบบติดจรวดพอๆกับราคาหุ้นของ Google
ธนูที่เขาซื้อมาก่อนเริ่มทำภารกิจ ตอบแทนเขาแล้ว

ลึกเข้าไปในถ้ำ  พวกเขาพบสถานที่ซึ่งเป็นที่โล่งกว้าง
เซอร์ มิดเวล กับทหารของเขาออกฆ่าพวกโคบอล์ดรอบๆแถวนั้น  และกลับมาตั้งแคมป์ที่นั่น
"เตรียมอาหารและพักผ่อนได้" เซอร์ มิดเวล สั่งการ
"ครับท่าน"
บูเรน และ เบคเกอร์  ก่อไฟ และหยิบหม้อขนาดใหญ่ออกมา
เนื่องจากมีอาวุโสน้อยที่สุดในกลุ่ม พวกเขาจึงต้องทำงานบ้านพวกนี้
วีด เดินเข้าไปหา และหยิบมีดออกมา
"ให้ผมช่วยพวกคุณนะ"  วีด พูดและยิ้มอย่างเหนียมอาย
"โอ้ ไม่เป็นไรๆ"  เบคเกอร์ ตอบ
"คือว่า ผมชอบทำอาหาร ครับ  แต่ก็ยังเป็นมือใหม่อยู่นะ     ผมว่าคงดีกว่าถ้าให้ผมได้รับใช้นักรบที่หาญกล้าผู้อุทิศดาบและโล่เพื่อโรเซนไฮม์อย่างพวกคุณ"
"ท่านมีเมตตามากเลย ท่านวีด"
วีด เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ทหารโดยทันที
บุรุษผู้อาสาทำงานจิปาถะในการเดินทางมักจะเป็นที่ยอมรับเสมอ
ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ  ทัศนะของ เบคเกอร์ กับ บูเรน ที่มีต่อ วีด เปลี่ยนไป
พวกเขารู้สึกขอบคุณ ที่ วีด หยิบมีดออกมาและหั่นเนื้อวัว

แน่นอน วีด มีเป้าหมายของเขา
แต่มันไม่เกี่ยวกับความเมตตาหรือ ความปรารถนาดีต่อเพื่อนๆ  อย่างแน่นอน
ทักษะทำอาหาร (Cooking Skill)
วีด หั่นเนื้อวัว และโยนลงหม้อ  ปรุงรส และเพิ่มผักลงไป...เขากำลังทำสตูว์
วัตถุดิบที่ต้องใช้สำหรับเป็นอาหารของ คนสามสิบคนนั้นเยอะพอดู
วีด เห็นว่า การทำอาหารจำนวนมาก เป็นทางที่รวดเร็วที่สุดในการเพิ่มทักษะทำอาหารของเขา

เลเวลเพิ่มขึ้น: ทักษะการทำอาหาร  [2]
เพิ่มรสชาติให้มื้ออาหารของคุณ
เพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูพละกำลัง
เพิ่มพลังชีวิต 5%

เลเวลเพิ่มขึ้น: ทักษะงานฝีมือ [7]
ความเชี่ยวชาญในงานฝีมือทุกชนิดเพิ่มขึ้น

กล่องข้อความ 2 กล่องเด้งขึ้นพร้อมกัน
ทักษะทำอาหารของ วีด เพิ่มขึ้นขณะที่ ทักษะงานฝีมือขาดค่าประสบการณ์อีกเล็กน้อยสำหรับอัพเป็นเลเวล 7
เหมือนยิงนกนัดเดียวได้สองตัว

วีด ลองทดสอบรสชาติสตูว์ มันเป็นเอกสิทธิ์ของคนทำอาหาร
"เยี่ยมยอด"
 หากเอาสตูว์ของเขาไปเทียบ กับขนมปังข้าวสาลีถูกๆในร้านของชำล่ะก็  มันเป็นการดูถูกชัดๆ
แม้มันจะไม่ยอดเยี่ยมเท่าบาร์บีคิวหมูที่เขาเคยกินเมื่อวันก่อน แต่มันก็ดีเพียงพอสำหรับความพยายามครั้งแรกในการทำอาหารของเขา  ซึ่งต้องขอบคุณ สกิลงานฝีมือ ที่ช่วยสนับสนุนทักษะทำอาหารเลเวลต่ำของเขา
"ทุกคน อาหารกลางวันพร้อมแล้วครับ  ช่วยตัวเองนะ"
เหล่าทหารผู้หิวโหยเพราะการต่อสู้ที่มาไม่หยุดหย่อน ได้รับสตูว์ไปคนละ ถ้วย   และพวกเขากินมันอย่างมูมมาม
"โอ๊ะ! อร่อยมาก"
"ไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้กินอาหารอร่อยยังงี้ที่นี่"
"ผมคิดว่า เขาทำอาหารเก่งกว่าภรรยาผมอีก"
เหล่าทหารยกนิ้วให้ วีด
การแสดงออกของพวกเขา บอกออกมาว่าอยากให้ วีด รับผิดชอบอาหารให้พวกเขาต่อไป
เขาเติมถ้วยสตูว์ให้ทหารที่มาขอเพิ่มเรื่อยๆ แน่นอน สำหรับส่วนของเขาเองด้วย
ทหารจัดการจนหมดหม้อ   และเมื่อเวลาพักหมดลง
เซอร์ มิดเวล ก็มาหา วีด  และขอร้องด้วยความจริงใจว่า
"ท่าน วีด ข้าขอรบกวนให้ท่านดูแลเรื่องอาหารให้คนของข้าได้หรือไม่?"
เห็นได้ชัดเจนว่า แม้กระทั่งอัศวินที่กล้าหาญก็ให้ความสำคัญกับการทำอาหารที่อร่อย
"ได้ครับ ผมจะรับผิดชอบเรื่องอาหารเอง"
และแล้ว วีด ก็ได้ชื่อว่า  เชฟอย่างเป็นทางการของกองกำลังกวาดล้าง
เขาไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำขอของ เซอร์ มิดเวล เพราะเขาก็ได้เพิ่มทักษะการทำอาหารด้วยการเตรียมสตูว์ให้ทหารสามสิบสองคน  ถึงสามครั้งต่อวันอีกด้วย
ยิ่งกว่านั้น  เขายังทำอย่างอื่นได้อีก
"ถ้าใครมีอาวุธหรือชุดเกราะที่เสียหาย เอามาให้ผมซ่อมได้นะครับ"
"จริงเหรอ?"
"ท่านซ่อมดาบให้ข้าได้รึเปล่า?"
"โล่ของข้าเสียหายไปครึ่งหนึ่ง ความทนทานมันต่ำมาก..."
"เอามาให้ผมลองดู... ซ่อมแซม!(Repair!)"
วีด ใช้ทักษะซ่อมแซมในการซ่อมแซมอาวุธและเครื่องสวมใส่ที่ทหารเอามาให้เขา
มันต้องใช้เงินจำนวนพอสมควรในการให้ช่างตีเหล็กในเมืองซ่อมแซมเครื่องสวมใส่ที่เสียหายให้
ซึ่งถ้าปล่อยให้มีความทนทานต่ำๆอยู่อย่างนั้น  มันอาจจะแตกหักเสียหายถาวรไปในการต่อสู้ได้

"ขอบคุณมากเลยท่าน วีด !"
วีด ได้รับความเคารพจากเหล่าทหาร
นอกจากเขาได้พัฒนาทักษะซ่อมแซมและทักษะงานฝีมือแล้ว  เขายังได้โบนัสแถมเป็นความเชื่อถือจากเหล่าทหารอีกด้วย


*******************************

เซอร์ มิดเวล ผู้ที่เคยสงสัยว่าควรจะพา วีด มาทำภารกิจตามคำแนะนำของเพื่อนของเขาหรือไม่นั้น
บัดนี้เขาพึงพอใจกับสิ่งที่ วีด ทำมาก
"ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ"
"ไม่หรอกครับ"
 วีด  กลายเป็นพวกพ้องไปกับกองกำลังแล้ว
ใครจะรู้ว่าถ้าไม่มีวีด  พวกเขาจะเจอกับความไม่สะดวกอะไรบ้าง
พวกเขาคงต้องย้อนกลับไปหมู่บ้านใกล้ๆ ทุกๆครั้งที่พวกเขาต้องซ่อมแซมอาวุธ
และกระเพาะของพวกเขาคงต่อต้านอาหารที่กินเป็นแน่
ยิ่งกว่านั้นหากว่าได้รับ ไอเทมเวทมนต์มา พวกเขาก็ต้องใช้ม้วนคัมภีร์ตรวจสอบ ซึ่งมันก็มีมูลค่าหลายเหรียญทองอยู่  แต่ถ้ามี วีด อยู่ เขาก็สามารถตรวจสอบไอเทมให้ได้
สำหรับพวกทหาร  พวกเขาคงรู้สึกทรมานที่ต้องกลับไปกินข้าวต้มไร้รสชาติที่ บูเรน กับ เบคเกอร์ บอกว่ามันคือสตูว์เนื้อวัว  โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาได้เคยลิ้มลองสตูว์เวอร์ชั่น วีด แล้ว
"ก็บอกแล้วว่าอย่าให้พวกเราทำแต่แรก!"   ทั้งสองคนตะโกนออกมาพร้อมกัน
ด้วยเหตุนี้  เหล่าทหารและ วีด จึงสร้างสายสัมพันธ์ที่ลึกล้ำขึ้นมา

*เฟี้ยววว*
ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ลูกธนูของ วีด พุ่งออกไป
โคบอล์ดก็ล้มตายลง
โคบอล์ดนั้นถูกมองว่าเป็นมอนสเตอร์ที่ค่อนข้างอ่อนแอ  แม้พวกมันจะสามารถใช้เครื่องมือได้  แต่เครื่องมือที่มันใช้นั้นค่อนข้างหยาบ เหมือนทำขึ้นโดยเด็กๆ
ดังนั้นในการต่อสู้พวกมันจึงมักจะอาศัยพวกมากเป็นหลัก
"คิโยโย่!"
กลุ่มของโคบอล์ดจำนวน 9 ตัวบุกเข้ามา
"เข้ามาเลย !  เหล่าEXPs ที่ล้ำค่าเอ๋ย~ "
รอยยิ้มกว้างปรากฎบนใบหน้าของเขา  
วีด ยิงธนูอย่างบ้าคลั่ง   เก็บค่าประสบการณ์อย่างง่ายๆ  ส่วนการป้องกันนั้น พวกทหารจะคอยจัดการให้
ที่เขาต้องทำก็แค่ ยิงธนูให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น!

เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น!

ทักษะใหม่: คุณเรียนรู้ทักษะยิงธนู

เขาเลเวลขึ้นอย่างรวดเร็ว  แถมยังได้ทักษะยิงธนูอีกด้วย  ซึ่งทักษะนี้จริงๆแล้วเป็นของอาชีพนักธนูเท่านั้น
มันช่างเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับเขามากเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยิงธนูอย่างเดียวในการต่อสู้นี้
แต่อย่างไรก็ตาม เหล่าทหารก็มิได้อิจฉา วีด แม้แต่น้อย เพราะหลังจบการต่อสู้  วีด คือคนที่จะยุ่งที่สุด
เขาต้องทำอาหาร  ซ่อมอาวุธยุทโธปกรณ์ และช่วยมัดแผลให้คนที่บาดเจ็บ
เซอร์ มิดเวล มียารักษาแผลจำนวนหนึ่งสำหรับกรณีฉุกเฉิน
แต่ทหารในกองกำลังไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอสำหรับยาราคาแพงนี้
วีด จึงช่วยบดสมุนไพร และพันแผลให้ทหารด้วยทักษะงานฝีมือของเขา
*ติ๊ง*
คุณเรียนรู้ทักษะพันแผล
คุณสามารถห้ามเลือดได้
เพิ่มพลังชีวิตให้ผู้ที่บาดเจ็บเมื่อได้รับการรักษา

จำนวนสกิลสูงสุดที่ผู้เล่นไม่มีอาชีพสามารถเรียนได้คือ 10
ทักษะพันแผลของ วีด  นั้นได้รับผลกระทบมาจาก สกิลงานฝีมือ ซึ่งมีประสิทธิภาพอย่างมาก
ด้วยการที่เขายุ่งกับการดูแลคนป่วยถึง 30 คนทุกๆวัน  ทักษะของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

กองกำลังกวาดล้างตะลุยชั้นหนึ่งและชั้นสอง  ไล่ล่าสังหารพวกโคบอล์ดตลอดสัปดาห์
ผู้เล่นหลายคน  มอง วีด ด้วยสายตาที่ อิจฉาที่เขาได้ร่วมกองกำลังกวาดล้างของ NPCs  และล่ามอนสเตอร์ไปกับพวกนั้น
สัปดาห์แห่งการขจัดโคบอล์ดทำให้เลเวลของ วีด พุ่งไปที่เลเวล 26
ทักษะการซ่อมแซม เพิ่มถึงเลเวล 3   และ ทักษะการทำอาหาร  ที่เลเวล 4 ซึ่งให้ความพิเศษเพิ่มเติมคือ +50 HP สำหรับคนที่ได้กินอาหารจนกว่าจะเริ่มหิวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม  วีด กำลังปวดหัว

"หน้าต่างข้อมูลภารกิจ (Quest Info Window)
ow.”
ปฏิบัติการค้นหาและทำลายใน ถ้ำสัตว์ร้ายแห่งลิตวาร์ต  ตอนที่ 2
มีมอนสเตอร์ชนิดหนึ่งจำนวนหนึ่งร้อยตัวอาศัยอยู่ใน ถ้ำสัตว์ร้ายแห่งลิตวาร์ต   ฆ่าพวกมันทุกตัวให้หมดอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรกับอาชีพที่มีเกียรติ ความสำเร็จในภารกิจนี้จะเปิดประตูแห่งโชคชะตาที่ถูกต้องสำหรับคุณ
ระดับความยาก: ไม่ทราบ
เงื่อนไขของเควส: ไม่มี
จำนวนมอนสเตอร์ที่เหลือ: 100

ภารกิจที่ อุปทูต โรดริเกวซ ให้มา
จำนวนมอนสเตอร์ที่เหลือ ไม่ลดลงเลย  ทั้งๆที่ วีด ฆ่าโคบอล์ดมากกว่าร้อยตัว
หลังจากสัปดาห์อุ่นเครื่องด้วยโคบอล์ดแล้ว  กองกำลังมุ่งหน้าไปที่ชั้น 3 ของดันเจี้ยน  มันคือเขตแดนของก็อบลิน

***************************************************

ในขณะที่การล่าโคบอล์ดคือการตั้งใจให้ทหารใหม่ได้มี ประสบการณ์ การต่อสู้จริงครั้งแรก
แต่การเผชิญหน้ากับก็อบลินนั้นอาจจะนำมาซึ่งสุสานสำหรับพวกเขา
พวกโคบอล์ดหัวรุนแรงโดยทั่วไปจะมีเลเวลราวๆ23   นักรบโคบอล์ดจะอยู่ที่ 28
ส่วนโคบอล์ดธรรมด้าธรรมดาจะอยู่ที่20
ในทางตรงกันข้าม ก็อบลินนั้นจะมีเลเวล 50 หรือมากกว่านั้น
ยุทโธปกรณ์ของพวกมันเหนือกว่าโคบอล์ดทั้งในด้านพลังโจมตีและการป้องกัน
ความแข็งแกร่งในการต่อสู้สูงกว่าโคบอล์ด ห้าถึงหกเท่า

"ระวังตัวด้วย  หากพบว่าอยู่ในอันตราย  ถอยออกมาทันที"
"รับทราบ, ท่านผู้บัญชาการ!"
พวกทหารไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นและความตึงเครียดได้  เลเวลของพวกเขาเพิ่มจาก 23 ไป 25 จากการฆ่าโคบอล์ด
แต่ความมั่นใจลดลงมากเพราะการต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่เลเวลมากกว่าพวกเขาถึงสองเท่า
ที่พอโล่งใจได้ก็คือจำนวนของก็อบลินไม่มากเท่าโคบอล์ด

"ฟู่~"
วีด พ่นลมหายใจออกมา  เขากำลังกลัวว่าหากกองกำลังต้องต่อสู้กับก็อบลินในสภาพนี้  พวกเขาคงต้องบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากเป็นแน่
'อาจจะหนึ่งในสาม หรือมากกว่า? หวังว่าจะไม่ตายหมดนะ'
ถ้า วีด เป็นผู้ควบคุมกองกำลัง  เขาจะใช้เวลาอีกสักหน่อยในการเพิ่มประสบการณ์กับเลเวลให้พวกทหารก่อนที่จะนำพวกเขามาเขตแดนของก็อบลิน
และ เขาจะสอนทหารให้สู้กับก็อบลินอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

แต่ผู้บัญชาการกองกำลังคือ เซอร์ มิดเวล
วีด จึงเหลือสองทางเลือก  หนึ่งคือตามพวกทหารอยู่ด้านหลังไปเหมือนเดิม และดูพวกเขาตายอย่างช่วยไม่ได้ หรือ เขาจะยอมเลิกภารกิจแล้วไปฆ่าโคบอล์ดเพิ่มจนกระทั่งเขาเลเวลมากพอจะสู้กับก็อบลิน
แน่นอนว่าเขาไม่เลือกทางที่สอง ซึ่งจะมีบทลงโทษต่อเขาอย่างมาก แน่นอน
จริงๆแล้ว  เหตุผลที่ วีด กังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพของพวกทหารก็คือว่า เขาไม่อยากให้ทหารล้มตายลงอย่างไร้ฆ่า ทั้งๆที่เขาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างความสนิทสนมกับเหล่าทหาร

"พวกมันมาแล้ว  เตรียมพร้อม!"
ก่อนที่ เซอร์ มิดเวล จะจบคำ  ก็อบลินจำนวนหนึ่งก็โผออกมาจากโพรง
"คิ๊กกกกกก!"
"มนุษย์ มนุษย์!"
"ฆ่ามันๆ!"
มีก็อบลินห้าตัวต่อทหารสามสิบคน    
อัตราส่วน 6 ต่อ 1
วีด วางแผนว่าจะยิงธนูใส่ก็อบลินก่อนเพื่อสร้างความได้เปรียบ และหาโอกาสอื่นหลังจากนั้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ก็อบลินนั้นให้ EXPs จำนวนมหาศาล และเขาอยากจะได้มัน

อย่างไรก็ตาม   พวกทหารต่างแข็งทื่อ  ยืนนิ่งเหมือนถูกตอกตะปูตรึงอยู่บนพื้น
จิตวิญญาณนักสู้** แผ่ออกมาจากก็อบลิน!
**(สกิลเดียวกับที่ วีด ได้มาในตอนที่ 2 ใครจำไม่ได้กลับไปอ่านใหม่นะ อุอุ--ผู้แปล)

พวกทหารกำลังตื่นกลัว เพราะแรงกดดันจากศัตรูเลเวลห้าสิบ  ดาบของพวกเขาหย่อนลง  โล่กำลังสั่นอย่างรุนแรง
"บ้าเอ๊ย..."
วีด เผลอสบถออกมา
ก็อบลินนั้น ไม่สามารถจัดการได้ง่าย ต่อให้เหล่าทหารยืนต่อสู้โดยปราศจากความกลัวก็ตาม
แต่ตอนนี้พวกเขาแข็งทื่อไปแล้วก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มซะอีก
หากเป็นอย่างนี้ต่อไป  หายนะย่อมจะตามมา
วีด มองไปที่ เซอร์ มิดเวล ผู้ที่กำลังยืนอยู่ข้างๆเขา
น่าเสียดายที่อัศวิน ไม่ได้อยู่ในภาวะที่จะกระตุ้นคนของเขาแต่อย่างใด
ผู้อ่อนแอสมควรตาย
คำขวัญแห่งเกียรติยศของอาณาจักรโรเซนไฮม์นั้นเลือดเย็นนัก
วีด ก้าวไปข้างหน้า  เขาสะพายธนูบนหลัง และชักดาบเหล็กขึ้นมา
'เราเชื่อในสายสัมพันธ์ที่เราพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างขึ้นมา' เขากล่าวกับตัวเอง
จากนั้น เขาทำบางอย่างที่ไม่มีทหารคนไหนจะคาดคิด
วีด ตะโกนก้องและพุ่งเข้าหา ก็อบลิน!
 "ย๊ากกกกก!"
*เคร้ง*
ดาบของ วีด กระเด็นออกอย่างง่ายดาย
เขาสามารถลดช่องว่างระหว่างเลเวลของเขากับก็อบลินได้ด้วยค่าสถานะที่เขามี แต่ช่วงดาบของเขานั้นไม่ยาวพอ
ดาบไม่ค่อยได้ผลกับก็อบลินที่มีอาวุธเป็นหอกยาว
'เราไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันเลย  ถ้าโดนเข้าล่ะก็  เราตายแน่'

ก็อบลินบล็อกดาบของ วีด และเกือบจะเวลาเดียวกัน มันก็แทงหอกใส่เขา
วีด ต้องก้มตัวลงเพื่อหลบหอกนี้
เขาจำเป็นต้องใช้ทั้งประสาทตอบโต้ฉับพลันอันน่าตื่นตาและไหวพริบ เพื่อรักษาชีวิตไว้
วีด ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะสู้กับก็อบลินอย่างเอาจริงเอาจัง ดังนั้นการโจมตีครั้งถัดๆมาของเขานั้นจึงไม่จริงจังมาก
"ตายซะ มนุษย์!"
"ดาบกระจอก!"
ด้วยหอกห้าเล่ม ก็อบลินโจมตีไปข้างหน้าอย่างไม่แน่นอนด้วยสัญชาติญาณ
ตราบเท่าที่ วีด ไม่เข้าไปในระยะที่ดาบของเขาจะฟาดฟันได้   เขาก็ยังไม่เสี่ยงที่จะกลายเป็นลูกชิ้นเสียบจากหอกพวกนั้น
แต่กระนั้น เขากำลังแสดงออกว่าเหมือนกำลังตกอยู่ในอันตราย  หลบหอกด้วยระยะที่ไม่ถึงนิ้ว
ในสายตาของเหล่าทหารแล้ว   ภาพที่เห็นดูเหมือนความพยายามดิ้นรนอย่างไม่มีหวังของผู้อ่อนแอ
แม้ว่าเลเวลของ วีด จะเพิ่มมากกว่าพวกเขา
แต่บทบาทของ วีด ที่พวกเขาจดจำได้คือ คนช่วยทำงานทั่วไป เช่นซ่อมอาวุธหรือช่วยรักษาแผล
วีด คนนั้นกำลังต่อสู้กับก็อบลิน!
สายตาของเหล่าทหารเริ่มสั่นไหวด้วยความมั่นใจ

หลังจากการปะทะไม่กี่ครั้ง  วีด ถอยออกมา และตะโกนก้องราวเสียงฟ้าฟาดว่า
"ดูพวกมันสิ!   ก็อบลินพวกนี้อ่อนแอกว่าภาพที่เราเห็น
แล้วดูฝ่ายเรา  เรามีเยอะกว่ามัน!   เราไม่ได้อยู่คนเดียว  พวกเรามีกันและกัน  เพื่อนร่วมรบของเราจะช่วยปกป้องแผ่นหลังของกันและกัน!"
"ฮู้~~~~ฮ่า!"
เหล่าทหารเรียกความกล้ากลับคืนมาแล้ว
"พวกเราคงละอายยิ่งนัก หากหลบอยู่หลังวีด เหมือนหนู!"
"ลุกขึ้นมา"

"ฆ่ามันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!"


*****************************************

พวกเขาพุ่งเข้าใส่พวกก็อบลิน
วีด รู้ได้ทันทีว่าการต่อสู้ระยะประชิดกำลังจะมาถึง  เขาจึงกระโจนถอยออกไปจากแนวปะทะ
"เจ้าพวกนี้มันใช้แค่หอกเท่านั้น ถ้าพวกเราสู้ในระยะของหอก มันจะทำให้พวกเราได้รับความเสียหายมาก   จงยกโล่ขึ้นแล้วเดินแถวเข้าไป บีบช่องว่างระหว่างกันให้แคบลง   และขัดขวางไม่ให้พวกมันใช้หอกได้ถนัด"
"รับทราบ!"
"พวกเราจะทำตามคำสั่งของท่าน!"

วีด ให้คำแนะนำอย่างเหมาะสมด้วยความสุภาพ
เมื่อความสนิทสนมระหว่างพวกเขาขึ้นถึงขีดสุด  คำสั่งของเขาก็ถูกปฏิบัติตามโดยเหล่าทหาร
พวกเขาผลักดันให้ก็อบลินร่นถอยไป
สองในสามของพวกทหารยกโล่ขึ้นกำบัง ที่เหลือต่างยกดาบขึ้นมา
เมื่อโล่สองแถวแรกชาร์จเข้าใส่ก็อบลิน
พวกก็อบลินก็แทงหอกออกมา แต่หอกพวกนั้นก็กระเด้งกระดอนกลับไป  สร้างความประหลาดใจให้กับศัตรูที่ไร้สมอง  และดาบของพวกเขาก็ได้เริ่มฟาดฟัน
.
เสน่ห์เพิ่มขึ้น 3 จุด

ค่าเสน่ห์ของ วีด ที่กำลังพักเหนื่อยอย่างเกียจคร้านเพิ่มมา 3 จุด
ค่าเสน่ห์นั้นมีผลต่อ กองทหาร NPCs  และจะทำให้สัตว์ที่เลี้ยงเชื่องได้ง่ายอีกทั้งยังมีผลต่อการว่าจ้างทหารรับจ้าง
เมื่อเหล่าทหารผู้ซึ่งถูกกระตุ้นโดยคำพูดของ วีด ได้เริ่มประจัญบาน
ความเป็นผู้นำของเขาก็ถูกยอมรับ

*ฉัวะ*
ฝูงก็อบลินนั้น  ทั้งที่มีเลเวลมากกว่ามาก ก็ไม่สามารถจัดการกองกำลังที่มีจำนวนมากกว่าถึง 6 เท่าได้
การบุกอย่างประสานงานกันของเหล่าทหารนั้นจัดการก็อบลินให้สลายไปทีละตัวๆ
ยุทธวิธีการรบแบบโรมัน นั้นจะไม่ได้ผลในกรณีที่เป็นการรบที่ทั้งสองฝ่ายมีจำนวนเท่ากัน
แต่เมื่อทหารจำนวนสามสิบคน ยกโล่ขึ้น และชาร์จเข้าไปทั้งสี่ทาง ก็สามารถกำจัดก็อบลินที่มีอาวุธเป็นหอกยาวได้
และบางคราวธนูที่ยิงโดน วีด ที่แอบหลบอยู่หลังกองทหาร ก็ยังทำให้พวกก็อบลินสับสนอีกด้วย
'ก็อบลินห้าตัว!'
'หนึ่งในนั้นต้องเป็นของเรา!'
วีด สังเกตสถานะการณ์การต่อสู้ และเมื่อเห็นก็อบลินที่กำลังใกล้จะตาย  เขาก็ยิงธนูเข้าไปที่คอของมัน
เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น!

เมื่อ วีด เลเวลขึ้นถึง 26 แล้ว  EXPs ที่เขาได้จากโคบอล์ด ก็ไม่มากเท่าเดิม
แม้ว่ามันอาจจะมากสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับ วีด  นั้น มันน้อยเกินไป
แต่ก็อบลินนั้น เป็นคนละเรื่องกับโคบอล์ด
เมื่อ วีด ได้ฆ่าก็อบลินไปหนึ่งตัว เขาที่เลเวล 26 กับอีก EXPs37%  ก็เลเวลอัพขึ้นทันที แถมยังมี EXPs สะสมอีก 10% ด้วย
'ก็อบลินเลเวลห้าสิบนี่ดีกว่าจริงๆแฮะ'
ในใจ วีด นั้น เขาอยากจูบตูด ก็อบลินขอบคุณ จริงๆ  ซึ่งคงมีพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ ว่าเขาจะทำอะไรถ้าพวกทหารไม่อยู่แถวนั้น (แปลตรงๆเลยนะเอ้อ!-- ผู้แปล)

มันยากมากที่จะหาที่เก็บเลเวลที่ดีกว่านี้ได้
"พวกเราชนะแล้ว!"
เหล่าทหารโยนดาบขึ้นฟ้าและตะโกนก้องด้วยชัยชนะ   พวกเขามีความมั่นใจขึ้นเมื่อประสบความสำเร็จในการจัดการก็อบลินชุดแรก
"ก็อบลินสู้พวกเราไม่ได้"
"ไม่ใช่ ที่พวกเราชนะง่ายขนาดนี้เป็นเพราะทำตามคำสั่งของ วีด ต่างหาก"
"เขามีพรสวรรค์เป็นผู้นำนะ"
"เขาคาดคะเนความแข็งแกร่งของศัตรูได้เก่งมากเลย"
"ด้วยการนำของ วีด โอกาสที่พวกเรารอดนั้นจะเพิ่มมากขึ้น"
เมื่อการต่อสู้จบลง  เหล่าทหารต่างตบหลังกล่าวชม วีด  
เทพีแห่งโชคลาภกำลังยิ้มให้ วีด!
อย่างไรก็ตามเขาเบนสายตามองดู เซอร์ มิดเวล ด้วยความระมัดระวัง
แม้ วีด จะแน่ใจว่าความสนิทสนมของเขากับเซอร์ มิดเวล จะพอป้องกันไม่ให้เกิดกรณีที่เลวร้ายที่สุดได้ก็ตามที
แต่ถ้า เซอร์ มิดเวล ขุ่นเคืองเพราะการบังคับบัญชาของเขาถูกคนแปลกหน้าก่อกวน เขาก็มีสิทธิ์ที่จะจัดการ วีด โดยไม่ต้องไต่สวน
เซอร์ มิดเวล มองไปที่กองซากศพของก็อบลิน ครุ่นคิดครู่หนึ่ง และกล่าวกับ วีด ว่า
"ท่านเป็นทหารที่ดีแน่ ท่านวีด   ข้าเห็นพรสวรรค์ในตัวท่าน   จะไม่ลองเดินในเส้นทางของ ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ ( Royal Guard)  ดูหน่อยรึ?"
"ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ ?"
"ท่านจะได้กลายเป็นหนึ่งในกองทหารที่มีเกียรติแห่งอาณาจักรโรเซนไฮม์   โดยเริ่มในตำแหน่ง เดนาเรียน (Denarion)"
*ติ๊ง*
คุณได้รับการเสนออาชีพ!
ถ้าคุณตกลง , คุณจะได้ดำรงตำแหน่ง เดนาเรียน ในกองทัพแห่งโรเซนไฮม์  คุณจะมีลูกน้องเป็นทหารราบสิบคน คุณจะมีสิทธิ์ได้รับการฝึกเป็นประจำ และได้รับเงินจำนวน 50 เหรียญเงินต่อเดือน คุณจะยอมรับอาชีพนี้หรือไม่?

#############################################################

50 เหรียญเงิน!!
#############################################################

นอกจากจะได้รับการฝึกอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังจะได้เรียนรู้ เทคนิคการใช้ดาบพื้นฐานทั่วไปจำนวนหนึ่ง และเครื่องสวมใส่ของกองทัพเช่นดาบหรือโล่อีกด้วย
ดาบเหล็ก และเกราะหนักที่มีพลังป้องกัน แน่นอนว่าไม่ใช่อุปกรณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่มี
วีด ส่ายหัว  เพราะตามแผนการที่เขาวางไว้  มันยังเร็วเกินไปที่จะปักหลักกับอาชีพเฉพาะทาง
"ผมเป็นเกียรติมากที่ท่านตีค่าผมไว้สูงขนาดนี้  แต่ว่า ผมคงรับมันไม่ได้  แน่นอนว่า ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ เป็นสิ่งที่ผมอยากเป็นมาก  แต่ว่าผมยังอยากเดินทางท่องเที่ยวไปให้ทั่วและอุทิศตัวช่วยเหลือคนยากจนคนที่อ่อนแอ กำราบมอนสเตอร์ที่ชั่วร้าย เลือดแห่งนักพเนจรมันไหลเวียนอยู่ในตัวผมครับ เซอร์ มิดเวล"
"โอ้ ไม่เป็นไร  แต่ถ้าท่านเปลี่ยนใจล่ะก็  แจ้งให้ข้ารู้ด้วย   สำหรับตอนนี้  ช่วยดูแลคนของข้าด้วย"
"จะดีหรือครับ?"
"จริงๆแล้วมันคือหน้าที่ของข้า แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเชื่อฟังท่าน และเรียนรู้จากท่านได้มาก  ข้าจะยืนดูจากเบื้องหลังว่าความเป็นผู้นำของท่านนั้นจะนำพวกเขาไปสู่หนใด"
เซอร์ มิดเวล ถ่ายทอดอำนาจควบคุมกองกำลังกวาดล้างให้ วีด

ตอนนี้ ทหารมีหน้าที่ต้องเชื่อฟังคำสั่งเขาอย่างน้อยที่สุดก็ในถ้ำนี้
แน่นอนว่าเขาไม่ได้คาดหวังถึงขนาดว่าพวกทหารจะชื่อสัตย์ขนาดกระโจนเข้ากองไฟถ้าเขาสั่ง
ค่าเสน่ห์ของ วีด ยังต่ำอยู่มาก  ดังนั้นเขาจึงหวังกับความสนิทสนมกับพวกทหารที่เขามี
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกับงานใหม่ที่เขาได้รับมอบหมาย
'โอเค  เราจะทำให้ดีที่สุด'  เขากล่าวกับตัวเอง
วีด เก็บธนูอย่างรวดเร็ว   ชักดาบขึ้นมา และถือมันไว้
มันคือการแสดงออกถึงตำแหน่งใหม่ที่เขาได้รับ เพราะมันคงจะดูไม่ค่อยน่าดึงดูดนักหากถือธนู ซึ่งมันจะทำให้พวกทหารนึกถึงพฤติกรรมในการต่อสู้ของเขาที่ไม่ค่อยจะมีเกียรตินัก
"ฟังนะ  ทุุกคน! ผมชื่อ วีด และตอนนี้ผมเป็นผู้ที่จะชี้นำทุกคนเอง   ผมขอร้องให้พวกคุณช่วยทำตามที่ผมบอกอย่างเต็มที่ด้วย"
 "ครับ, หัวหน้า!"
(จริงๆ จากประโยคภาษาอังกฤษ มันจะเหมือนทหารออกคำสั่งซึ่งใช้คำที่ดูเข้มแข็งกว่านี้  แต่ผมเห็นว่าใช้คำขอแบบนุ่มนวลจะเข้ากับสิ่งที่ วีด แสดงออกมาตลอดมากกว่า และจะค่อยๆปรับให้เข้มขึ้นเรื่อยๆ --ผู้แปล)
"เป้าหมายสำคัญของผมก็คือกวาดล้างถ้ำนี้โดยไม่มีการสูญเสีย  ขอให้ทุกคนจงพยายาม   และพวกเราจะไม่หลั่งเลือดโดยสูญเปล่า
"ครับ, หัวหน้า!"

เมื่อ วีด ได้รับอำนาจบังคับบัญชาจาก เซอร์ มิดเวล  ทัศนคติของพวกทหารที่มีต่อเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

"บูเรน, เบคเกอร์"
"พวกนายเป็นหน่วยสอดแนม  คอยนำหน้ากองกำลัง  และมองหาศัตรูในเส้นทาง
ต่อให้พวกเราติดพันในการต่อสู้ พวกนายก็ต้องคอยมองดูศัตรูที่กำลังจะเข้ามา"
"ครับ, หัวหน้า!"
วีด นำกองกำลังของเขาโดยให้มีหน่วยสอดแนมสองคนนำไป
ในไม่ช้า  บูเรน ก็วิ่งหอบกลับมาหาเขา
"หัวหน้า"
"ว่ามา"
"บูเรน ขอรายงาน!  ก็อบลิน 7 ตัวที่ สิบสองนาฬิกา เป็นก็อบลินเพศเมียสองตัวกับ ก็อบลินไรเดอร์อีกห้า(Goblin Raider)
ก็อบลินไรเดอร์ในข้อมูลส่วนตัวของ วีด นั้น  มันเป็นมอนสเตอร์เลเวล 58
"เยี่ยมมาก บูเรน ,  ทุกคนหยุด!"
วีดสั่งให้กองกำลังของเขาหยุดในพื้นที่เปิด  และเตรียมกับดัก
จากนั้นเขาเดินไปจุดที่มีก็อบลินอยู่เพียงคนเดียว
เป็นไปตามที่ บูเรน รายงาน  ก็อบลินเจ็ดตัวกำลังพักผ่อนอยู่ที่นี่
วีด หยิบธนูออกมาและยิงไปที่ก็อบลินตัวที่ไกลที่สุด
ก่อนที่ลูกธนูของเขาจะโดนเป้าหมาย  เขาก็หันหลังกลับและวิ่งหนีในทันที

*เฟี้ยวว~ฉึก*
"ก๊าซซซซ , มนุษย์!"
พวกก็อบลินหันมองรอบๆ เมื่อมันมองเห็น วีด  ก็วิ่งไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว
วีด รู้ว่าถ้าเขาโดนก็อบลินเจ็ดตัวล้อม เขาย่อมไม่มีโอกาสรอดแน่นอน
จึงได้แต่หวังกับสองขาของเขา

*ตุ๊บ*
เมื่อ วีด ได้ยินเสียงก็อบลินใกล้หลังเขาเข้ามา  เขาเริ่มสั่น
ก็อบลินที่ถือหอกกำลังวิ่งมาอย่างรวดเร็ว
'พระเจ้า! เสียวสันหลังเลย  นี่สินะที่เขาบอกกันว่าเกมนี้ว่าสุดยอดมาก  ไม่ใช่สิ  งานที่ยอดที่สุดทำหรับเรา' เขากล่าวกับตัวเอง
ทั้งๆที่อยู่ในจุดอันตราย  วีด ก็ยังคิดในแง่ดี   จริงอยู่ที่เขาอยู่คนเดียว แต่เขาจะปลอดภัยเมื่อเขาไปถึงจุดที่ทหารของเขาซ่อนอยู่
วีด วิ่งเหมือนหางเขาโดนไฟไหม้ และมาถึงพื้นที่โล่ง
"หัวหน้า!"
บูเรน และ เบคเกอร์  เป็นใบหน้าแรกที่เขาเห็น
"เตรียมพร้อมประจัญบาน  ก็อบลินกำลังจะเข้ามาแล้ว!"
ขณะที่ เสียงตะโกนของ วีด สะท้อนก้องไปทั่วพื้นที่  ก็อบลินเจ็ดตัวก็โดดออกมา
ในชั่วเวลานั้น  โชคชะตาของพวกมันก็ถูกตัดสิน
"ฮู้ก?"
ก็อบลิน ซึ่งโง่และไม่มีความคิด  ต่างตกตะลึงกับกองทหารที่โผล่ออกมาจากก้อนหินที่ใช้ซุ่ม  และพวกเขาก็โยนคบไฟใส่พวกก็อบลิน
"พวกมันติดกับดักแล้ว!"
"บุกเข้าไป!"
"พวกมันมีหอก  ระวังด้วย  ใครที่บาดเจ็บถอยออกมา ไม่ว่าจะสาหัสหรือไม่"
ถ้าวีด เห็นล่วงหน้าว่าเขาจะได้ควบคุมกองกำลัง    เขาจะซื้อกับดักติดมาด้วย
ดังนั้นไอเดียดีที่สุดที่เขาคิดได้เมื่อไม่มีอุปกรณ์อื่นก็คือ ขว้างคบไฟใส่พวกก็อบลิน
ถึงกระนั้น พวกทหารก็สู้ได้อย่างยอดเยี่ยม  กองกำลังสามสิบคนเหมือนเครื่องจักรที่แบ่งแยกก็อบลินออกเป็นส่วนๆ และทำลายล้างพวกมันทีละตัวๆ
ตัวแปรที่ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นได้ขนาดนี้คือขวัญกำลังใจ
ไม่ว่าจะสำหรับมอนสเตอร์หรือ NPCs ขวัญกำลังใจมักจะเป็นตัวแปรสำคัญในการต่อสู้
ทหารที่เชื่อในผู้นำคนใหม่ของพวกเขา,  วีด

หรือในอีกทางหนึ่ง  ก็อบลินที่ตื่นตะหนกเพราะรู้ตัวว่าวิ่งมาติดกับดักและกำลังสับสนกับคบไฟที่ขว้างใส่พวกมัน แถมยังถูกมนุษย์ล้อมกรอบ
ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีความคิดที่จะสู้อีกต่อไป
"มนุษย์ขี้โกงลอบโจมตีพวกเรา!"
"เคี้ยกกก วิ่งหนีเอาตัวรอด!"
'คิดว่าข้าจะปล่อยพวกแกไปงั้นรึ?'
ในขณะที่ทหารกดดันพวกก็อบลินอย่างต่อเนื่อง  วีด ก็ออกคำสั่ง
"ล้อมพวกมัน  ปิดทางเข้าไว้!"
"ครับ หัวหน้า!"
" ให้คนเจ็บถอยออกมาและรักษาแผล  ทหารที่ยังไหวอยู่ ให้เน้นป้องกัน    ใครที่รักษาแผลแล้วให้รอเข้าไปเสริม
เตรียมพร้อมเข้าปะทะเมื่อผมสั่ง"
ภายใต้สำสั่งของ วีด  เหล่าทหารก็สกัดกั้นความเคลื่อนไหวของก็อบลินไว้ได้
ซึ่งสองในเจ็ดตัวนั้นตกตายไปเพราะธนูของ เขา
เมื่อเขาเอาชีวิตไปเสี่ยงล่อมันมา  เขาจึงชอบที่จะได้จบเกมก็อบลินอย่างน้อยสองตัว
ก็อบลินเลเวลสูงสามารถต้านรับไว้ได้นานแม้จะขาดขวัญกำลังใจก็ตาม แต่เมื่อ วีด แยกพวกมันออกเป็นสามกลุ่มด้วยกองทหารของเขา  และให้ทหารของเขาสลับเปลี่ยนกันเข้าสู้จนพวกมันเหนื่อยล้า
จุดจบของพวกมันก็คือฝุ่นสีเทา..

ก็อบลินพวกนี้ดรอป เก้าเหรียญเงิน โลเหล็กและหอกสัมฤทธิ์
เมื่อ บูเรน และ เบคเกอร์ หยิบพวกมันขึ้นมา  วีด ก็กล่าวแทรกขึ้น
"ทุกคนฟังทางนี้!  ผมภูมิใจกับความกล้าหาญของพวกคุณมาก   ผมจะแบ่งไอเทมพวกนี้ด้วยวิธีที่ต่างออกไปจากเดิม"
".....?"
"ผมจะให้รางวัลคนที่สู้ก็อบลินได้อยากหาญกล้าที่สุดด้วยเงื่อนไขที่ว่า  ต้องไม่บาดเจ็บจนถึงขนาดไม่สามารถร่วมต่อสู้ในการต่่อสู้ถัดไป  เพราะหน้าที่หลักของผมคือนำพวกคุณกลับไปหาครอบครัว"
"ครับ หัวหน้า!"
ด้วยคำพูดของ วีด สายตาของเหล่าทหารเต็มไปด้วยความชื่นชม

*ติ๊ง*
เสน่ห์เพิ่มขึ้น 2

**************************

จริงๆแล้ว วีด จะเก็บไอเท็มไว้เองก็ย่อมได้
แต่ตัวเขากำลังถูกจับตาอยู่
ถ้าความสนิทสนมระหว่างเขากับพวกทหารลดลง  ค่าเสน่ห์ต่ำๆของเขาก็ไม่อาจจะช่วยเขาจากการขัดคำสั่งที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากนั้น การคงอยู่ ของ เซอร์ มิดเวล  ยังทำให้เขาต้องฝังความโลภของตัวเองไว้
วีด นำกองกำลังกวาดล้างพวกก็อบลินจนหมดชั้น 3
อย่างไรก็ตาม  วันหนึ่ง เซอร์ มิดเวล ก็เข้ามาพูดกับเขาด้วยหน้าตาที่ตึงเครียดว่า
"ท่าน วีด   ภารกิจของเราไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร  ข้าแนะนำว่าให้ท่านเร่งรีบขึ้นกว่านี้"
"ทำไมหรือครับ?"
"ข้ายืมทหารพวกนี้มาจากกองทหารอื่น ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานพวกเขาตลอดไป
พวกเขาต้องทำภารกิจให้สำเร็จภายในหนึ่งเดือน  และกลับไปสู่สังกัดเดิมของพวกเขา"
วีด ไม่เคยรู้ว่ามีกำหนดเวลาอยู่ด้วย
ซึ่งดูเหมือนว่า เฉพาะพวกทหารเท่านั้นที่ตกอยู่ในเงื่อนไขดังกล่าว

อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้รีบเร่งแต่อย่างใด
ในกรณีที่ต้องสู้กับก็อบลิน 6 ตัวขึ้นไป  เขามักจะล่อมันมาพื้นที่โล่งด้วยการยิงธนูใส่พวกมันดอกสองดอก
และให้พวกทหารเข้าบดขยี้พวกมัน
ถ้ามีน้อยกว่าหกตัว  เขาก็จะนำทหารเข้าไปสู้กับพวกมันโดยตรง
วีด จะหลบหลีกการต่อสู้จนกระทั่งทหารของเขาฟื้นตัวเต็มที่ทุกคน  นอกจากนั้นเขายังทำสตูว์ ซ่อมอาวุธและอุปกรณ์ที่เสียหาย เพื่อให้กองกำลังของเขาอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
เมื่อกองกำลังกวาดล้างจัดการชั้นสามเสร็จ   วีด เลเวลขึ้นถึง 37
และพวกทหารก็ขึ้นถึง 34
เวลาแห่งการล่าที่แท้จริงก็มาถึง
*************************
" พุ่งเข้าไป!"(ชาร์จ)
"รักษาขบวนไว้! ชาร์จเข้าไป!"
ด้วยคำสั่งของ วีด  พวกทหารเคลื่อนไหวยังกับคนบ้าระห่ำ
สำหรับพวกเขา พวกก็อบลินไม่น่ากลัวอีกต่อไป
"ย๊ากกก! ว๊ากกก!"
"ตายซะ เจ้าพวกตัวน่าเกลียด!"
"ข้าจะกำจัดพวกแกให้หมดไปจากโลกเจ้าพวกมอนสเตอร์สกปรก"
เหล่าทหารผลักดันก็อบลินไปข้างหน้าด้วยโล่ของพวกเขา
พวกทหารกลับไปปากเสียเหมือนอย่างที่เคย เพราะ วีด สอนคำสี่พยางค์จาก พจนานุกรมของโรดริเกวซ ให้พวกเขา  (งงล่ะสิ  ผมก็งง)
บางครั้งพวกเขาก็หัวเราะแม้จะตกอยู่ในอันตราย
ดาบของพวกเขา ฟาดฟันก็อบลินที่ถือหอกอย่างไหลลื่น
วีด ยังรักษารูปแบบของกองกำลังของเขาไว้เช่นเดิม  แต่ว่าผ่อนคลายขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น
กองกำลัง มุ่งหน้ากวาดล้างพวกก็อบลินอย่างต่อเนื่อง ทิ้งซากศพของพวกมันนับพันไว้ข้างหลัง
เหล่าทหารดัดแปลงยุทธวิธีของวีด ด้วยความมั่นใจและ บดขยี้การป้องกันของก็อบลินด้วยการโจมตีประสานงานอย่างเข้าขา
ตอนนี้ การสังหารพวกก็อบลิน 6 ตัว  สำหรับกองกำลังที่มี ทหารมากประสบการณ์ถึง 30 คน ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น

"พวกเราชนะแล้ว  ผมจะแบ่งไอเท็มโดยดูจากความกล้าหาญที่แต่ละคนแสดงออกมา
ฮอสแรม (Hosram)  กับ  เดล(Dale)"
"ยะฮู้!"
"ทหารคนไหนมีอะไรให้ซ่อมแซม หรือต้องการพักบ้าง?"
"ไม่มีครับ หัวหน้า!"
"ไม่มีครับ!"
"ถ้างั้น ไปกันต่อได้  , หน่วยสอดแนม รายงาน!"
บูเรน และ เบคเกอร์ ผู้มีหน้าที่สอดแนมและรายงานจำนวนและจุดที่มีก็อบลินอยู่ใกล้ๆ
"เบคเกอร์  ขอรายงาน!  พบก็อบลิน 8  ตัวอยู่ที่ระยะเก้านาฬิาห่างออกไปร้อยหลา   เป็นก็อบลินอัลเชมิส (Goblin alchemist) หนึ่งตัว ก็อบลินนักรบหกตัว ธรรมดาหนึ่งตัวครับ!"

"เคลื่อนไปข้างหน้า!"
กองทหารวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหมาะสม  ไม่ช้า ไม่เร็ว
พวกเขาหายเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ครั้งที่แล้ว และเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง
.
.
.

"ม..มนุษย์!"
"ศัตรู  ฆ่ามันให้หมด!"
พวกก็อบลินพยายามต่อต้าน แต่มันก็แทบจะไม่มีความหมายใดๆต่อ
เหล่าทหารที่ตอนนี้ เชี่ยวชาญในการต่อสู้จริง และมีขวัญกำลังใจที่เหนือกว่า
แถมยังมีลูกธนูของ วีด  ที่เหมือนประกาศศิตสั่งตาย
ค่าทักษะทางธนูของ วีด นั้นเพิ่มขึ้นเร็วเมื่อเขาได้เข้าร่วมในการต่อสู้ด้วย
และเขาไม่ต้องเล็งยิงแต่ก็อบลินที่ใกล้จะตายแล้วแต่อย่างใด
วีด ยิงธนูเพื่อที่จะเปิดฉากก่อน และเมื่อฝูงก็อบลินกำลังจะฝ่าวงล้อมของกองทหารออกไปได้ เขาก็จะขัดขวางการเคลื่อนไหวของพวกมันด้วยการยิงดัก
โดยเป้าหมายของ วีด คือ  ก็อบลินที่กำลังจะทำอันตรายทหารคนใดคนหนึ่งของเขา
ลองนึกดูว่า เมื่อหอกของก็อบลินกำลังจะพุ่งเข้าใส่คุณ แล้วลูกธนูของผู้นำของคุณก็เจาะหัวของก็อบลินตัวนั้นก่อน
นั่นย่อมทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยและศรัทธาในตัวผู้นำขึ้นมากขึ้นว่าไม๊?
ซึ่งนั่นย่อมเกิดขึ้นกับทหารที่ถูก วีด ช่วยชีวิตไว้ในวินาทีสุดท้ายหลายคน
กองกำลังของ วีด กวาดล้างก็อบบลิ้นอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดเวลามาก
การพิชิตชั้น 4 เร็วกว่าชั้น 3 มาก  และยังรักษาความเร็วไว้เท่าเดิมในชั้น 5 ซึ่งต้องปะทะกับ ก็อบลินถึง 20 ตัวในบางครั้ง

เมื่อเหล่าทหารมีทักษะการต่อสู้ที่สูงขึ้นมาก
ทำให้พวกเขาสามารถต่อสู้ 1 ต่อ 1 กับก็อบลินได้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม วีด ยังคงให้ใช้ยุทธวิธีเดิมในการจัดการกับก็อบลิน คือเน้นที่การป้องกันและจำนวนของก็อบลิน
มีทหารบางคนเริ่มอวดดีและชวนให้เขาเลิกใช้วิธีนี้   แต่ให้ต่อสู้กับก็อบลินอย่างเสมอภาค
วีด  ยืนขึ้นและกล่าวว่า
"อย่าคิดว่าก็อบลินสกปรกนั่นสมควรจะได้รับความยุติธรรม!
เจ้าคิดว่าอัศวินจะขอดวลกับมอนสเตอร์งั้นรึ?  ถ้ามีล่ะก็ มันก็แค่เจ้าโง่ที่ปกป้องเกียรติของตัวเองจากมอนสเตอร์เท่านั้น   พวกเราต่อสู้กับมันเพื่อที่จะปกป้องและคืนความสงบให้แก่ประชาชนของโรเซนไฮม์  
จำไว้ว่าถ้าใครคนหนึ่งลังเลที่จะฆ่าก็อบลินเพราะพยายามจะมีศีลธรรมล่ะก็  เพื่อนพ้องคนอื่นนั่นแหละที่จะรับผลร้ายที่ตามมา!"
เสน่ห์ของ วีดควบคุมกองทหารสามสิบคนไว้ได้
ทหารคนหนึ่ง ที่ออกไปต่อสู้กับก็อบลินเพียงคนเดียว ถูกปฏิเสธส่วนแบ่งของเขา  และจะถูกกันออกจากการต่อสู้ครั้งถัดไป  และในไม่ช้าเขาก็ได้เห็นว่า  ตัวเองต้องอยู่แนวหลังและมองเพื่อนร่วมรบเลเวลขึ้น
ตัวอย่างนี้สอนบทเรียนให้ทุกคน  ดังนั้นกองกำลังนี้ จะพุ่งเข้าไปแทงใส่หลังของก็อบลินอย่างรวดเร็วถ้ามีโอกาส
พวกเขาถูกล้างสมองโดยลิ้นของ วีด แล้ว


ด้วยยุทธวิธีรบของทหารราบ 101
ไม่ถึงหนึ่งเดือน  วีด ก็นำกองกำลังเข้ากวาดล้างทั่วทั้ง ถ้ำสัตว์ร้ายแห่งลิตวาร์ต

*************************************

เนื่องจากยังเหลือเวลาหนึ่งสัปดาห์  พวกเขาจึงกลับไปที่ชั้นสาม และไปจนถึงชั้นสุดท้ายเพื่อกวาดล้างก็อบลินที่เกิดขึ้นมาใหม่
เมื่อการต่อสู้เริ่มต้น พวกทหารก็กระจายกำลังเป็นสองปีก ตีวงล้อมและสังหารศัตรูโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ
ทันทีที่การต่อสู้จบลง  พวกเขาพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่งแล้ว
รวดเร็วและรุนแรง
ไม่มีทหารเสียชีวิต
พวกเขาสำเร็จภารกิจ  ปฏิบัติการค้นหาและทำลาย ใน ถ้ำสัตว์ร้ายแห่งลิตวาร์ต  ด้วยการที่เลเวลเพิ่มขึ้นไปถึง57   ส่วนวีด นั้น 62
ซึ่งหากพิจารณาโดยทั่วไปแล้ว
เลเวลเฉลี่ยของเดนาเรียน แห่งกองทัพของอาณาจักรโรเซนไฮม์ จะอยู่ที่ 40 เท่านั้น  สิ่งที่ วีด ทำสำเร็จนั้นมันยอดเยี่ยมมาก

"ทำได้ดีมาก ท่านวีด     ท่านช่วยเราได้เป็นอย่างมาก"
เซอร์ มิดเวล  แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาพิศวงปนชื่นชม ในตัววีด อย่างมาก
"ถ้าพวกเรามี คนที่กล้าหาญและเป็นผู้นำเช่นท่านสักห้าคน อาณาจักรโรเซนไฮม์ จะไม่ถูกรบกวนโดยพวกมอนสเตอร์แน่นอน
ด้วยเอกสิทธิ์ของ  ราชองครักษ์ ข้าขอแต่งตั้งให้ท่านเป็น เซ็นทูเรียน (Centurion : นายกอง-ควบคุมทหารร้อยคน)
ท่านจะยอมรับข้อเสนอของข้าหรือไม่ท่านวีด?"

*ติ๊ง*

คุณได้รับการเสนออาชีพ!
ถ้าคุณตกลง , คุณจะได้ดำรงตำแหน่ง เซ็นทูเรียน ในกองทัพแห่งโรเซนไฮม์ คุณจะเป็นผู้บังคับบัญชาทหารราบหนึ่งร้อยคน  คุณจะมีสิทธิได้รับการฝึกเป็นประจำ และได้รับเงินจำนวน 3 เหรียญทองต่อเดือน  คุณจะยอมรับอาชีพนี้หรือไม่?


เซ็นทูเรียน คือเจ้าหน้าที่ของทางการผู้ควบคุมทหารหนึ่งร้อยคน
ซึ่งในไม่ช้าก็จะได้เป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะถูกใส่ชื่อเข้าไปในบัญชีพิจารณาเลื่อนยศ สู่ตำแหน่งอัศวินใน RED ORDER**
ถ้าเป็นผู้เล่นคนอื่น  พวกเขาคงรับมันอย่างรวดเร็ว
แต่ วีด ไม่ลังเลใจ
"ผมดีใจมากที่ได้ยินเช่นนั้น เซอร์ มิดเวล แต่มันคงเกินกว่าที่ผมจะรับไว้ได้"
"โอ้ เฟรย่า ท่านปฏิเสธมัน!   ถ้าท่านต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกข้าได้นะท่าน วีด  ข้าเชื่อว่าพวกเราสามารถตกลงกันได้"
"ข้อเสนอของท่านนั้น  เกินกว่าที่ผมต้องการเสียอีก  แต่ว่าสิ่งที่ผมต้องการนั้นคือให้อาณาจักรโรเซนไฮม์มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองและความสงบสุข
เนื่องจากหัวใจของผมนั้นร่ำร้องให้ออกเดินทางไปหลายๆที่และ ให้ความช่วยเหลือแก่คนที่ต้องการ  ดังนั้นมันจึงเร็วไปที่ผมจะหยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่งในตอนนี้
 ถ้าท่านมีภารกิจกำจัดมอนสเตอร์หลังจากการเพาะปลูกในฤดูใบไม้ร่วง  หรือโรเซนไฮม์ถูกรุกราน  ผมจะเป็นคนแรกที่วิ่งมาหาท่านและจะช่วยชี้แนะเหล่าทหารหาญของกองทัพโรเซนไฮม์ให้ด้วยความยินดี"
"จิตวิญญาณของท่านช่างน่าชื่นชมนัก...ประตูแห่ง กองกำลังสังกัดราชวงศ์ (Royal Army) จะเปิดต้อนรับท่านเสมอ ท่าน วีด"
เซอร์ มิดเวล ถอนคำเสนอไปด้วยความยินยอมพร้อมใจ
"ตอนนี้ภารกิจของข้าสำเร็จแล้ว และกำลังจะกลับไปที่ป้อมปราการ ท่านจะไปด้วยหรือไม่?"
"ผมมีบางอย่างต้องทำที่นี่อยู่ครับ"
"พอจะบอกข้าได้หรือไม่?"
เซอร์ มิดเวล ดูเหมือนจะสงสัย

ตลอด 4 สัปดาห์ วีด ช่วยเสิร์ฟสตูว์ 3 มื้อต่อวัน ให้ทหาร 32 คน ซึ่งทำให้  ทักษะการทำอาหาร (Cooking skill) ของเขาพัฒนาขึ้นมาก
ซึ่ง เซอร์ มิดเวล ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบอาหารของเขา ดังนั้นความสนิทสนมของเขากับ วีด จึงแน่นแฟ้นขึ้นมาก
"ผมยังต้องทำภาจกิจที่ได้รับมาจาก ท่านอุปทูต โรดริเกวซ "

ตอนแรก วีด คิดว่าการกำจัดก็อบลินจะทำให้ครบเงื่อนไขของภารกิจ แต่เขาก็คาดผิดอย่างแรง
จำนวนของมอนสเตอร์ ที่เขาต้องฆ่า ร้อยตัวนั้น ไม่ลดลงเลย
นอกจากนั้น ถ้านับดูดีๆแล้ว ในแต่ละชั้นนั้น จะมีก็อบลินร้อยตัวพอดี
"โอ...ท่านวีด  ภารกิจจากท่านอุปทูตงั้นรึ...ข้าเข้าใจแล้ว  ข้าหวังว่าจะได้กลับไปที่ป้อมปราการกับท่าน
แต่ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะทำให้พวกเราต้องแยกทางกันตรงนี้แล้ว**
ถ้างั้นข้าจะให้ท่านยืมแอซ (Arse) แล้วกัน"
"แอซ? ก้นใครครับ?"
(มุข Arse.....Ass-- ผู้แปล)
"ท่านลืมชื่อของม้าที่ท่านขี่เมื่อวันก่อนแล้วงั้นรึ?"
"อย่าบอกนะว่า..."
 วีด ปวดหัวขึ้นมาทันที
ม้าหนุ่มที่ทั้งดีดทั้ง กัดเขา!
ตอนนี้เขาจำได้แล้วว่าม้านั่นชื่อ แอซ
ช่างเป็นชื่อที่น่าอายสำหรับ ม้าที่จะกลายเป็นพ่อพันธุ์
(ใครไม่เข้าใจมุกนี้ถามหลังไมค์ได้นะครับ(ฮา)--ผู้แปล)
"ถ้าไม่มีม้า การเดินทางกลับป้อมปราการจะทำให้ท่านเสียเวลาอันมีค่าไปมาก แอซ จะช่วยท่านได้"
"ขอบคุณท่าน แต่ว่า ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ต้องการม้าเท่าไหร่--"
"ข้าก็แค่อยากตอบแทนท่านเท่านั้น โปรดรับมันไป    คืนมันที่ โรงเลี้ยงม้าในวัง (Royal Stable)  เมื่อท่านเสร็จภารกิจแล้ว"
"....."
เซอร์ มิดเวล ตอบกลับมาทันทีที่ วีด บอกสิ่งที่เขาอยากพูด  ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เซอร์ มิดเวลไม่อยากได้ยินอะไรอีก   ...ปิดประเด็น
อัศวินหวังดีต่อ วีด แต่เขาไม่ต้องการ
เขาจะทนอยู่กับม้าหนุ่มดุร้ายนั่นได้ยังไง?
วีด เกลียดตัวน่ารำคาญนี้มาก แต่เขาก็ต้องจำยอมรับมัน  ไม่งั้นเขาคงต้องทำให้ รอยัลไนท์  เสียหน้าอีกครั้ง
.
.
.

"ท่านหัวหน้า  พวกเราจะคิดถึงท่านแน่"
"ต้องขอบใจท่านที่ทำให้พวกเราได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย"
"ไปเยี่ยมบ้านผมนะ  ถ้ากลับมาที่ป้อมปราการแล้ว"
"ผมเปิดโรงแรม ใกล้ถนนสายหลัก  ท่านมาพักได้เสมอนะ"
"ครอบครัวผมเปิดร้านอาหาร  ภรรยาผมจะเสิร์ฟอาหารอร่อยๆให้ท่านเอง  แม้มันจะไม่อร่อยเท่าของท่านก็เถอะ!"
พวกทหารมากล่าวลากับ วีด
ด้วยความที่เป็นทหารผ่านศึกชั้นสูง  พวกเขาอาจจะได้เลื่อนยศเมื่อกลับไปถึงเมือง
อย่างน้อยที่สุดก็ตำแหน่ง เดนาเรียน ในขณะที่หนึ่งหรือสองคนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดก็อาจจะได้ตำแหน่งที่ดีกว่า
วีด จับมือกับทหารทุกคนที่เคยเป็นเพื่อนร่วมรบกับเขา
มือของเขานั้นอบอุ่น  และบีบมือทหารไว้แน่นชั่วขณะหนึ่ง
"ต้องไปจริงๆรึ?"
"ผมก็อยากอยู่ที่นี่กับท่าน หัวหน้า  แต่ผมเป็นทหารที่น่าภูมิใจของกองทัพโรเซนไฮม์   ผมจึงต้องกลับไปที่ๆผมสังกัด"
"หัวหน้า  ผมจะคิดถึงท่าน"
ดวงตาของ วีด เศร้าหมองอย่างไม่เต็มใจ

เขาต้องลำบากขนาดไหนเพื่อฝึกทหารพวกนี้!
เขาเป็นคนแรกที่ควรได้เครดิตในการแปลงร่างทหารใหม่เลเวลยี่สิบให้กลายเป็นทหารผ่านศึกชั้นอ๋อง
ตอนนี้ วีด รู้สึกเหมือนว่าเขาถูกอาณาจักรปล้น
.
.
.

"เดินทางปลอดภัย ทุกคน!"  วีดกล่าวลา
"เช่นกันครับหัวหน้า"
"หัวหน้าต้องมาที่บ้านผมนะ!"
หลังจากที่โบกมือลา กองกำลังที่เคยเป็นของเขามาก่อนอย่างไม่เต็มใจ
วีด ก็ยืนอยู่เพียงลำพัง

เล่มที่ 1 ตอนที่ 7 :  จบ

****************

ที่มา :
http://writer.dek-d.com/grit/story/viewlongc.php?id=837140&chapter=7

2 ความคิดเห็น: