วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่มที่ 10 ตอนที่ 2 ปฐมภูมิแห่งโครงกระดูก (The Origin of Skeleton)

เล่มที่ 10 ตอนที่ 2 ปฐมภูมิแห่งโครงกระดูก (The Origin of Skeleton)

KMC มีเดียกำลังออกอากาศเรื่องราวของทวีปเวอร์เซลล์
หน้าที่ของชิน เฮ มิน และ โอ จูวานในรายการคือการนำเสนอข้อมูลใหม่ๆ  ออกมาให้ผู้ชมรับรู้
“คุณโอ จูวานคะ  คุณเคยบอกฉันว่า   ถ้าเงื่อนไขที่กำหนดครบถ้วนและสามารถทำเควสพิเศษได้สำเร็จ อะไรบางอย่างที่สำคัญจะเกิดขึ้นใช่มั้ยคะ?”
“ใช่ครับ ตามรายงานของบริษัทยูนิคอร์นได้มีการกล่าวไว้ว่า 'ในกรณีของอาชีพสายผลิตนั้น  หลังจากที่พวกเขาพัฒนาทักษะจนถึงจุดจุดหนึ่งแล้ว พวกเขาจะสามารถเริ่มดำเนินการทำเควสพิเศษที่เกิดขึ้นมาได้' ”
“เควสจะไม่เหมือนกับก่อนเควสอาชีพขั้นสูงก่อนหน้านี้ เหรอคะ?”
“มันจะแตกต่างกันอยู่นิดหน่อยน่ะครับ   เช่น  ถ้าเป็นแบล็กสมิท  พวกเขาสามารถเปิดร้านเป็นของตัวเองได้น่ะครับ”
“แม้กระทั่งร้านเครื่องประดับด้วยรึเปล่าคะ?”
“ใช่แล้วครับ จากเทคโนโลยีพื้นฐานที่พวกเขาสะสมมา พวกเขาสามารถเปิดร้านขึ้นมาได้ และยังสามารถจ้างพนักงานเข้าดูแลร้านได้อีกด้วยนะครับ”

จนถึงตอนนี้ แบล็กสมิทเป็นอาชีพที่ทำได้แค่ถูกจ้างจากคนอื่น  พวกเขาทำได้เพียงการสร้างปราสาทให้แก่กษัตริย์ ขุนนางและชนชั้นสูงเท่านั้น        
ซึ่งหลังจากทักษะของพวกเขาพัฒนาจนถึงขอบเขตหนึ่งแล้ว   แบล็กสมิทจึงจะสามารถสร้างสรรงานภายใต้ชื่อของตนและสร้างเรื่องราวของตนเองขึ้นมาได้

“ในอนาคต เมืองและอาณาจักร จะต้องการโรงงานต่างๆ มากขึ้น เพื่อปรับปรุงอัตราการพัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว  ดูเหมือนว่าในอนาคต  อาชีพสายการผลิตจะกลายเป็นความหวังนะครับ”
“และนั่นเป็นเรื่องที่ดีค่ะ  ทีนี้ผู้เล่นหลายคนที่มีอาชีพสายการผลิตคงจะได้วาดฝันถึงอนาคตที่ดีๆได้มากขึ้น”
“พูดถึงเรื่องเควสอาชีพแล้ว.... พวกเราก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเควสพิเศษที่เกิดขึ้นมา     ตัวอย่างเช่น  ผมเคยได้ยินเรื่องเควสของแบล็กสมิทที่อนุญาตให้สร้างร้านขึ้นมาได้เหมือนกัน   เควสเกี่ยวกับอาชีพนั้นมีทางเลือกมากมายมหาศาล   ดังนั้นผมแนะนำให้ทุกคนอย่ายอมแพ้นะครับ"
โอ จูวานอธิบายไปเหงื่อไหลไป เขาอ่านสคริปมาเกือบ  2 ชั่วโมงแล้ว

“ใช่เลยค่ะ   แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าทักษะอาชีพพวกนั้นถูกพัฒนาไปถึงขั้นระดับมาสเตอร์ล่ะคะคุณโอ จูวาน?”
“ จากรายงานการสัมภาษณ์ส่วนตัวกับบริษัทยูนิคอร์นนั้น รายงานกล่าวว่า ผู้เล่นใกล้จะข้ามขอบเขตนั้นแล้ว    ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะยังไม่ปรากฏก็ตาม    เพราะอย่างไรรอยัล โรด ก็เป็นเกมที่กว้างใหญ่มหาศาลและแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ     อีกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งทางกายในโลกของความเป็นจริงด้วย   เมื่อคุณลองคิดดูแล้วล่ะก็ การจะพัฒนาทักษะให้ถึงระดับมาสเตอร์นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากเลยทีเดียว”
“แต่ถ้าสมมติพวกเขาทำได้ขึ้นมา พวกเขาจะได้อะไรบ้างเหรอคะ?”
“ชื่อเสียงยิ่งใหญ่ไงล่ะครับ   และถ้าพวกเขาขึ้นกับกับอาณาจักรล่ะก็ ผมคิดว่าพวกเขาคงจะได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ด้วย”

โอ จูวานพยายามจะพูดต่อไปด้วยการเสนอความคิดเห็นของตนเองธรรมดาๆ      แต่ ชิน   เฮมินสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขาได้
“พวกเรามาออกรายการด้วยกันแบบนี้ปีกว่าแล้วนะคะคุณ โอ จูวาน คุณรู้มั้ยว่าคุณมีนิสัยชอบกะพริบตาทุกครั้งที่คุณต้องการปกปิดอะไรบางอย่างอยู่”
“ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นเหรอครับ?”
“ให้พวกเรารู้ด้วยเถอะนะคะว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ก็นะ ความจริงคือ...”

โอ จูวานยิ้มอย่างกระดากอายก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ
“มันยังไม่จบแค่พวกเขาเป็นมาสเตอร์ในอาชีพของตนเองน่ะครับ”
“ยังไม่จบ? เมื่อทักษะของพวกเขาถึงระดับมาสเตอร์แล้ว   พวกเขาก็จะอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพสายการผลิตแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”
“ไม่ครับ เมื่อถึงจุดนั้นมันจะเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ต่างหากล่ะครับ ทักษะที่พวกเขาได้รับจะถูกใช้ไปกับบางอย่างที่เกี่ยวพันกับทวีปนั้นๆ และสำหรับผู้เล่นอาชีพต่างๆ ที่จะดำเนินมาสเตอร์เควสของพวกเขาได้นั้น พวกเขาจะต้องสร้างปาร์ตี้ที่สามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักของทวีปเวอร์เซลล์ให้ได้ก่อนครับ  เท่าที่ผมบอกได้คือ เควสดังกล่าวนั้น ล้วนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์เลย....จนกระทั่งตอนนี้ ข้อมูลนอกเหนือจากนี้ผมก็ไม่รู้แล้วจริงๆครับ”
“มันจะสนุกมากกว่า  เวลาที่อยู่ๆ มันก็เกิดขึ้นกะทันหันนะคะ”
“ผมกะแล้วว่าคุณก็คงคิดแบบนั้น   ส่วนตัวผมนั้นยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะเชี่ยวชาญในอาชีพที่ผมมี   ผมยังทำผิดๆ พลาดๆ อยู่เลย”
“ทักษะของอาชีพที่อยู่ในขั้นสูงๆ  นั้นพัฒนาได้ยากมากเลยค่ะ  ยังไงก็ขอบคุณที่บอกข้อมูลฉันนะคะ”
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พูดคุยกับสาวงามอย่าง คุณชิน เฮมินนะครับ  ผมน่าจะเป็นฝ่ายที่ขอบคุณมากกว่านะ”  
“โอ้ ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ   นั่นทำให้ฉันนึกขึ้นมาได้     วันนี้ฉันได้ทานผลไม้ที่คุณนำมาให้ด้วยค่ะ”
“เห็นที ตอนกลับบ้านผมต้องไปซื้อผลไม้เพิ่มซะแล้ว”

ตอนนี้ ชิน เฮมิน  และ โอ จูวาน ต่างก็พร้อมที่จะปิดรายการแล้ว รายการ ช่วงที่ 1   เป็นการเชิญผู้คนเข้ามาพูดคุย ส่วนในช่วงที่ 2 นั้นเป็นการบอกเล่าข้อมูลต่างๆที่พวกเขารู้   รายการที่ออกอากาศกว่า  2 ชั่วโมงได้เสร็จสิ้นแล้ว และมันถึงเวลาที่พวกเขาจะได้พักผ่อนเสียที
‘เราน่าจะไปเล่นกับคุณเพลเสียหน่อย’

ชิน เฮ มิน ดำเนินการไปเรื่อยๆ  และเตรียมตัวสำหรับการปิดท้ายรายการ
ทันใดนั้นเอง สัญญาณของโปรดิวเซอร์ที่ให้ขยายเวลาออกอากาศก็สว่างขึ้น
‘ตอนนี้ควรจะปิดรายการได้แล้วเหรอไม่ใช่เหรอ?’

ทันใดนั้น หน้าจอของทีวีปรากฏภาพการต่อสู้ของคณะสำรวจในหุบเขามรณะ การสู้รบของคณะสำรวจแดนเหนือถูกถ่ายทอดออกมาเชื่อมกับเวลาในโลกจริง

โอจูวาน ยังอยู่ในความตื่นตระหนก แต่ ชิน เฮ มิน สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
“ท่านผู้ชมคะ  พวกเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ถ่ายทอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทวีปเวอร์เซลลล์อย่างถูกต้องและรวดเร็ว!    รายการของเรายังไม่จบนะคะ  เราจะจัดส่งข่าวให้พวกท่านทันทีที่มีข้อมูลเข้ามาเลยค่ะ”

โอจูวาน  ได้รับการเรียนรู้ในเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาอย่างรวดเร็ว ด้วยการมองภาพที่ฉายในหน้าจอ เขาเดาว่ามันน่าจะเกี่ยวกับคณะสำรวจดังนั้นเขาจึงให้คำอธิบายประกอบเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว
“ก่อนอื่น ท่านผู้ชมครับ เรื่องที่พวกเราจะบอกพวกท่านคือเรื่องที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อนเกี่ยวกับคณะสำรวจในแดนเหนือ คณะสำรวจที่นำโดยโอเบรอน, กัปตันของพวกเขา ดูเหมือนว่าคณะสำรวจจะสามารถเข้าไปยังหุบเขามรณะได้สำเร็จแล้วล่ะครับ”
โอจูวาน คุยโม้ผ่านทางเครือข่ายของโรยัล โร้ด
และโชคดี ที่เขารู้จักกับโอเบรอนผู้เป็นที่เคารพนับถือ จึงได้รับข่าวสารโดยตรงเกี่ยวกับคณะสำรวจจากเขา

ชิน เฮ มิน และ โอจูวาน  อ่านสิ่งที่ถูกเขียนในป้ายของโปรดิวเซอร์ และบรรยายเรื่องราวออกมาทางเฮดโฟน
“คุณเชส บอกข่าวฉันมาว่า ตอนนี้ที่หุบเขามรณะ  สถานที่ที่คณะสำรวจได้เข้าไปนั้น มีความเป็นไปได้อย่างมากที่  สร้อยลูกปัดที่แตกร้าวของแม่มดเซอร์เบียนจะอยู่ที่นั่น!  สิ่งนี้จะช่วยปัดเป่าความร้อนที่เกิดขึ้นในทวีปหลักได้ค่ะ”

ความเหนื่อยล้าของ ชิน เฮมิน  และ โอ จูวาน  หลังจากถ่ายทอดรายการไปกว่า 2 ชั่วโมงหายไปโดยสิ้นเชิง
ทั้งสองคนก็เป็นเหมือนกับคนอื่นๆ ที่ชื่นชอบโรยัล โร้ด  การให้ข้อมูลใหม่ๆ แก่ผู้ชมทำให้พวกเขาสองคนรู้สึกภาคภูมิใจ

ชิน เฮมิน  เปิดประเด็นเป็นคนแรก
“คณะสำรวจกำลังผจญภัยเพื่อตามหาสร้อยลูกปัดที่แตกร้าวของแม่มดเซอร์เบียนอยู่ค่ะ! ซึ่งตอนนี้กำลังถ่ายทอดสดตามเวลาจริง เราจะออกอากาศเรื่องราวการเดินทางของคณะสำรวจอย่างนี้ไปเรื่อยๆโดยไม่คำนึงถึงเวลาของรายการตามปกติเพื่อให้ผู้ชมได้รับชมกันค่ะ!”

การถ่ายทอดรายการนั้นสามารถออกอากาศได้จนถึงรุ่งเช้าเพื่อให้ผู้ชมได้ดูในสิ่งที่พวกเขาอยากดู เรื่องราวเกี่ยวกับทวีปเวอร์เซลล์นั้นกลายเป็นสิ่งที่ถูกให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในตารางเวลาของสถานีเลยทีเดียว ดังนั้น  ถ้ามันจำเป็น เวลาในการถ่ายอากาศสามารถยืดออกไปแทนที่รายการอื่นๆ ได้เลยทีเดียว!

ชิน เฮ มิน และ โอ จู วาน มองเห็นฐานทัพของหุบเขามรณะ จากมุมมองจอที่สร้างจากการผจญภัยของคนแคระโอเบรอน

การต่อสู้อันนองเลือดของคณะสำรวจ
พวกเขาต่อสู้กับนักบวชหน้าตาชั่วร้ายแห่งวิหารเอ็มบินยู และฝูงมอนสเตอร์
มังกรโครงกระดูกก็บินร่อนไปมารอบๆบนท้องฟ้าและกัดกินเหล่าคณะสำรวจ
ทุกอย่างทั้งหมด อยู่ในทัศนวิสัยของโอเบรอน

ชิน เฮ มิน ครุ่นคิดกับตัวเองว่า
‘คุณเพลต้องดูเหตุการณ์นี้’

ผู้เล่นทุกคนต่างอ่อนไหวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรยัล โร้ด การปรากฏตัวของเควสหายากที่สามารถนำไปสู่สงครามที่รุนแรง
 ด้วยเหตุที่ผู้เล่นเป็นล้านๆ คนกำลังดู   ทำให้เพียงแคไม่กี่นาทีเรตติ้งก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว       ฝูงชนมากมายนับหมื่นคนต่างมาออกันอยู่บนถนนตรงหน้าจอทีวีขนาดใหญ่
จริงๆแล้ว สำหรับ ชิน เฮ มิน และ โอ จูวาน มันไม่สำคัญหรอกว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไรในการออกอากาศ  เนื่องจากพวกเขาก็ได้รู้สึกสนุกกับมันไปด้วย   อีกทั้งมันยังเกี่ยวกับโรยัล โร้ด!

ชิน เฮ มิน   กล่าวความคิดของเธอออกมา
“อืม ฉันหวังว่าคณะสำรวจจะจัดการมังกรโครงกระดูกนั่นได้และได้รับสร้อยลูกปัดที่แตกร้าวของแม่มดเซอร์เบียนนะคะ"

โอ จู วาน พยักหน้าเห็นด้วย
“มันดูเป็นไปได้อยู่นะครับ กิลด์โฟรเซ่นโรสไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวและคณะสำรวจก็มียอดฝีมืออยู่มากมาย”
“ตอนแรกฉันคิดว่า คณะสำรวจถูกสร้างขึ้นมาเพราะปรารถนาในรางวัล แต่ คุณโอ จู วาน คะ...."
“ครับ?”
“มังกรโครงกระดูกนี่แข็งแกร่งขนาดไหนเหรอคะ”
“มังกรโครงกระดูกเป็นมอนสเตอร์ที่ทรงพลังมากครับ มีเพียงกิลด์ที่หาญกล้าจะเข้าไปยังพื้นที่ของมอนสเตอร์อันตรายเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับมันได้      ถ้าคุณเดินอยู่คนเดียวตอนกลางคืนแล้วเจอมันล่ะก็ ควรจะรีบวิ่งหนีให้เร็วที่สุดเลยล่ะครับ”
“ฉันคิดได้แค่ว่ามันจะแย่แค่ไหนถ้าเจอกับมังกรโครงกระดูกในตอนกลางคืน”

ในยามกลางคืนของทวีปเวอร์เซลล์นั้น มอนสเตอร์จะแข็งแกร่งขึ้นอีก 50%  ดังนั้นจำนวนมอนสเตอร์ที่ผู้เล่นสามารถออกล่าได้นั้นจึงลดลง   และโดยทั่วไปแล้วผู้เล่นส่วนใหญ่จึงมักจะไม่ล่ามอนสเตอร์ในยามกลางคืน
จริงๆแล้ว  การล่ามอนสเตอร์ระดับบอสในยามค่ำคืนก็ไม่ต่างอะไรกับการหาเรื่องฆ่าตัวตายเลย  ดังนั้นไอเทมและค่าประสบการณ์ที่จะได้รับเป็นรางวัลนั้น แทบจะไม่มีค่าเลยถ้าเทียบกับความเสี่ยงที่มี

ถัดจากนั้นบนหน้าจอ   พวกเขาก็ได้ยินเสียงลำตัวมังกรโครงกระดูกกระทบพื้น และขวานที่กระจัดกระจายเต็มไปหมด
โอเบรอนขว้างมันออกไปราวอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดกับว่ามันเป็นเพียงไม้ฟืน

ชิน เฮ มิน กำหมัดทั้งสองข้างแน่นด้วยความตื่นเต้น
“หวังว่าความพยายามในการดิ้นรนมีชีวิตอยู่ของคณะสำรวจจะประสบความสำเร็จนะคะ”
“ใช่ครับ ตอนนี้พ่อมดก็กำลังเตรียมพร้อมร่ายเวทขนานใหญ่อีกครั้ง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเล็งไปยังลำตัวมังกรโครงกระดูก”
“ฉันคิดว่ามันเป็นเวทอาณาเขตไฟที่รุนแรงนะคะ”
“การโจมตีแบบกามิกาเซ่ที่นำโดยพ่อมดดรัมถูกยิงออกไปแล้วครับ"

 ชิน เฮ มิน  และ โอ จู วาน บรรยายการต่อสู้ ราวกับการพากษ์ฟุตบอล

*
*
*

วีดเองก็กำลังดูคณะสำรวจต่อสู้กับมังกรโครงกระดูกเช่นกัน
‘มังกรโครงกระดูกงั้นเหรอ ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าโทริแฮะ’

โทริเป็นแวมไพร์ลอร์ด อำนาจของแวมไพร์ในการเปลี่ยนสภาพใครซักคนให้กลายเป็นหินนั้นเป็นเวทมนต์โจมตีที่ทรงพลังและพลังทำลายล้างสูงมาก   แต่มังกรโครงกระดูกนั้น  ด้วยขนาดที่ใหญ่โตมโหฬารนั่นก็สามารถกระทืบสมาชิกคณะสำรวจได้มากมายนับไม่ถ้วนแล้ว มันเหมือนกับช้างที่คอยไล่บี้ฝูงมดอย่างไรอย่างนั้น

“พวกเขาจะต้องถูกใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หึหึหึหึ”
วีดวาดรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา
เขาได้รับประโยชน์มากจากการที่คณะสำรวจเมินเขาโดยสมบูรณ์เพราะมองว่าอาชีพของเขาคือประติมากร!
ความทุกข์ของผู้อื่นคือความสุขของเรา!
.
.
ถึงแม้โอเบรอนจะรับคนอื่นๆ รวมถึงวีดเข้ามา   แต่โอเบรอนก็ให้สิทธิพิเศษในการได้รับการดูแลรักษาแก่กิลด์ของเขาก่อน
แม้ในการต่อสู้อันโหดร้ายส่วนใหญ่นั้นพวกเขาจะได้ชัยชนะ  แต่คณะสำรวจก็มักจะเพิกเฉยต่อกลุ่มของนักแกะสลัก

มันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วที่อาชีพสายผลิตผู้สร้างอาวุธและเกราะจะถูกเมินเฉย แม้กระทั่งจะเป็นผู้เล่นที่มีทักษะเลเวลสูงก็ตาม พวกเขาเพียงได้รับการเคารพเล็กน้อยซึ่งนั่นไม่เปลี่ยนแปลงอะไรและจะถูกเรียกก็ต่อเมื่อคนเหล่านั้นต้องการอะไรบางอย่างเท่านั้น   พวกเขาคิดว่าแค่มีเงินแล้วจะหาอะไรเท่าไหร่ก็ได้

มันเป็นไปเองโดยไม่ต้องบอกเลยว่าอย่างน้อยอาชีพสายผลิตและศิลปะจะมีประโยชน์ในการรักษาบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น

ระหว่างทำอาหาร นักแกะสลักและสถาปนิกก็จะช่วยเหลือสมาชิกคณะสำรวจ แต่การนั่นยังไม่เพียงพอให้เกิดการยอมรับ
และในตอนที่ผู้เล่นอาชีพสายผลิตและศิลปะถูกฆ่าไปเป็นจำนวนมากยิ่งแสดงให้เห็นว่านั่นเป็นความจริง

วีดนึกถึงตอนที่ลมหายใจของมังกรโครงกระดูกพัดใส่
“พวกเขาน่าจะให้การป้องกันได้เต็มที่แท้ๆ”
นักบวชและพ่อมดมีเวลาพอที่จะร่ายเวทป้องกันเอาไว้รอบๆ   ถ้าพวกเขาทำแบบนั้น   ผู้เล่นสายอาชีพการผลิต รวมทั้งพ่อครัวและพ่อค้าจำนวนหนึ่งอาจจะมีชีวิตรอด  ซึ่งบางทีวีดอาจจะรอดเนื่องจากพลังชีวิตที่มหาศาลของเขา  แต่ก็ไม่มีใครได้รับการป้องกันจากเวทมนต์เลยซักคน

“พวกเราไม่มีค่าพอให้ช่วยสินะ”
การใช้มานาเพื่อช่วยผู้เล่นมากมายที่ไม่สามารถช่วยเหลือในการสู้รบได้โดยตรงอาจจะทำให้พวกเขาเดือดร้อนเสียเอง   ดังนั้นเมื่อพวกเขาไม่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือ พวกเขาจึงสามารถรวบรวมพลังไปใช้ในการต่อสู้ได้มากขึ้น

มันไม่ใช่การตัดสินใจของพวกพ่อมดหรือของนักบวช  แต่เป็นการประเมินของโอเบรอนเองในตอนนั้น  แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ตาม  วีดก็ไม่ได้โทษเขา
ยังไงตั้งแต่แรก โลกก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว

“มังกรโครงกระดูกก็แข็งแกร่งมากด้วย”
เมื่อมังกรโครงกระดูกโจมตีลงบนพื้น จำนวนผู้เคราะห์ร้ายในคณะสำรวจก็เพิ่มมากขึ้น

มันเป็นสถานการณ์อันตราย!

เหล่านักดาบและดาร์คเกมเมอร์เริ่มบรรเลงการต่อสู้ที่น่าประทับใจ
“ที่รัก ฉันเจ็บ!”
โวล์คเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างของนักบวชแห่งเอ็มบินบูไปพร้อมกับตวัดดาบยักษ์ของเขาไปมาอย่างดุดัน
“คอยตรงนั้นนะเบบี๋  พวกเรายังมาจบที่นี้ไม่ได้หรอกนะ!”

แดรินคอยรักษาอาการบาดเจ็บให้สามีของเธอและเหล่าเกมเมอร์คนอื่นๆ
แทนที่เหล่าดาร์คเกมเมอร์จะเข้าไปจัดการกับมังกรโครงกระดูกอย่างสะเพร่า พวกเขากลับหันไปจัดการกับเหล่ามอนสเตอร์อื่นๆ แทน ซึ่งทำให้จำนวนมอนสเตอร์ลดลงอย่างต่อเนื่อง

เหล่านักดาบต่างก็กระจัดกระจายไปในแต่ละทิศทางเช่นกัน
“เจ้านี่!”
“ลิ้มรสนี้ซะเถอะ!”

ต้องขอบคุณพลังโจมตีและป้องกันที่เพิ่มขึ้นจากทักษะลับดาบและขัดเกราะจากของวีด  ทำให้ตอนนี้เหล่านักดาบสามารถสู้กับมอนสเตอร์ได้อย่างสูสี!
ผู้เล่นคนอื่นๆ ต่างก็รับรู้ว่ามันไม่ธรรมดา
“มันอันตรายนะ นักดาบ 305!”
“โว้ว!”

เหล่านักดาบไม่ได้ถูกล้อมรอบด้วยมอนสเตอร์ พวกเขาอาศัยการวิเคราะห์สถานการณ์ และคอยเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมที่สุด
พวกเขาเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่กระจัดกระจายออกมาและจัดการพวกมันทีละตัวได้อย่างราบคาบ
เหล่านักดาบแต่ละคนต่อสู้กับพวกมันทีละตัวโดยไม่แม้แต่จะพึ่งการสนับสนุนของพ่อมดหรือนักบวชเลย!
.
.
.

วีดพยักหน้า
“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆล่ะก็ มังกรโครงกระดูกคงจะถูกกำจัดไปอย่างไม่ต้องสงสัย”

ไม่ว่ามอนสเตอร์จะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม มันก็ไม่สามารถจัดการกับคณะสำรวจทั้งหมดได้
ในดินแดนเหนือที่เย็นยะเยือกนี้ เลือดสีแดงไหลนองไปทั่วหุบเขามรณะ  มังกรโครงกระดูกไม่มีทางหยุดการรุดหน้าของเหล่าฮีโร่ได้

เหล่าผู้เล่นต่างฟังบาร์ดขับร้องเมื่อพวกเขาขับขานด้วยเสียงสูงขึ้นอีกระดับ
แดนเซอร์ต่างก็ขยับไปตามท่วงทำนองนั้น บางครั้ง พวกเขาก็ลื่นและล้มลงบนน้ำแข็ง แต่พวกเขาก็ยังลุกขึ้นมาและไม่หยุดร่ายรำ
บาร์ดได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าแดนเซอร์
ชาแมน,  ผู้อัญเชิญ และผู้ใช้ธาตุต่างก็อุทิศตัวให้กับภารกิจของพวกเขา
แม้คณะสำรวจจะสูญเสียไปมากมาย แต่ดูเหมือนว่าชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้กำลังจะเกิดขึ้น

“ระหว่างที่กำลังจัดการกับมอนสเตอร์ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับมังกรโครงกระดูก กว่าครึ่งตายไป แต่การจะเอาชนะ มันก็ยังไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้น”
วีดตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ครั้งนี้

เหล่านักดาบไม่ใช่คนที่จะตายในสนาบรบแบบนี้  ชีวิตของพวกเขาล้วนเติบโตมากับการดูแลร่างกายของตน   ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่วีดจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเลย

“ยังไงก็ตาม เราคงไม่สามารถไปโผล่หน้าในสารรูปแบบนี้ได้”
รูปร่างของเขาตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นโครงกระดูก
การจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นมอนสเตอร์ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยในสถานการณ์แบบนี้!
อีกอย่าง เวทรักษาของนักบวชจะให้ผลตรงข้ามกับเขาอีกด้วย ดังนั้นคงจะดีกว่า ถ้าเขาจะหลบซ่อนไม่ให้คณะสำรวจเห็นซักพัก

วีดหลบซ่อนตัวก่อนจะมองดูสถานการณ์ตรงหน้าค่อยๆ ถูกคลี่คลาย
“ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่นะ”
พฤติกรรมประหลาดของซอยุนทำให้เขารู้สึกสนใจ
แม้ว่าศัตรูของสิ่งมีชีวิต , มังกรโครงกระดูกจะปรากฏตัวขึ้น เธอก็ยังลากดาบของเธอไปยังด้านหน้าคณะสำรวจเรื่อยๆ
ระหว่างที่โอเบรอนถอนกำลังออกไปถึงขอบเขตหนึ่ง ซอยูนกลับเข้าโจมตีอย่างรุนแรงด้วยแรงเหวี่ยงอย่างต่อเนื่อง
การโจมตีอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุดซึ่งเป็นคุณลักษณะของอาชีพเบอร์เซอเกอร์นั้นถูกโถมซัดใส่มังกรโครงกระดูก
เธอได้รับบาดเจ็บมากมายระหว่างการต่อสู้ในแนวหน้า   ในขณะที่สนามรบเริ่มชุลมุนมากยิ่งขึ้นไปอีก

และทันใดนั้นเองที่สถานการณ์กลับพลิกผัน
เมื่อมอนสเตอร์ถูกลดจำนวนลงจนถึงจุดหนึ่ง  เหตุการณ์อันเลวร้ายก็ก่อตัวขึ้นในคณะสำรวจ
สมาชิกส่วนหนึ่งของคณะสำรวจกลับแทงดาบใส่พวกเดียวกันเอง
“อุก!”
“ทำไมจู่ๆ.....”
“เราอยู่ฝ่ายเดียวกันนะ หยุดโจมตีได้แล้ว!”
“นักบวชขับไล่สถานะถูกยั่วยวนซะ เร็วเข้า ร่ายเวทศักดิ์สิทธ์เดี๋ยวนี้!”

พวกเขารู้ว่าจะต้องใช้เวทศักดิ์สิทธ์กับพวกเดียวกันที่โดนเวทยั่วยวนเข้าไปจากนักบวชแห่งเอ็มบินยู
แต่ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นในคณะสำรวจก็ไม่หยุดการโจมตี พวกที่เอาแต่ป้องกันตกตายลง
นักบวชระเบิดเสียงกรีดร้องออกมา!
“เวทชำระล้างใช้ไม่ได้ผล!”
“พวกเขายังโจมตีพวกเดียวกันเอง!”

มันไม่ใช่มอนสเตอร์ที่ทำให้ผู้เล่นงงงวย
แต่เป็นการทรยศในช่วงเวลาที่ใกล้แตกหัก!

เทรอส แห่งกิลด์คริมสันวิงสับเปลี่ยนดาบของตน
ที่ผ่านมากิลด์คริมสันวิงเฝ้ารอคอยอย่างอดทน พวกเขาซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสม  ไอเทมพิเศษที่เปลี่ยนหน้าตาและชื่อ สับเปลี่ยนชุดเกราะรวมทั้งดาบ
และเมื่อห้วงเวลาสำคัญมาถึง พวกเขาจึงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

เทรอสซึ่งปลอมแปลงตนเองนั้นเปลี่ยนกลับมาเป็นชุดเกราะแบบเดิมที่เขาเคยใช้และใบหน้าของเขาที่ถูกดัดแปลงก็ถูกเอาออก
“พวกเราเสาะแสวงหาในดินแดนที่เหนาวเหน็บนี่เพื่อตามหามังกรโครงกระดูก!”

ฟลาวิโอ นักรบบาบาร์เรี่ยนที่อยู่ข้างๆ โอเบรอน พุ่งเข้าสกัดโอเบรอนไว้
“อุก! ทำไม….”
“เพื่อกิลด์คริมสันวิงค์ของพวกเรา มันช่วยไม่ได้ พวกเราจะจัดการมังกรโครงกระดูกให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วง สิ่งที่คุณทำจะไม่สูญเปล่าหรอก”
ฟลาวิโอ ฟันใส่โอเบรอนอย่างแรง
การโจมตีที่สาหัสถึงชีวิต!

โอเบรอนไม่ได้เตรียมรับมือกับการทรยศกระทันหันในคณะสำรวจ ระหว่างการต่อสู้กับมังกรโครงกระดูกแบบนี้  เขาบาดเจ็บ  และเพื่อนๆ คนอื่นต่างประสบกับชะตากรรมแบบเดียวกัน
โอเบรอนตวาดกร้าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ที่ผ่านมานายรอเวลาเพื่อทำแบบนี้เองเหรอ!!!”
“ก็น่าอยู่หรอกที่พวกนายจะโดนหลอก แค่เพราะว่าเราเป็นหนึ่งในคณะสำรวจ ไม่ได้แปลว่าเรามีเป้าหมายเดียวกันซะหน่อย”
“ไอ้ขี้ขลาด ฉันจะไม่ยอมให้จบแบบนี้….."

สมกับที่เป็นนักรบผู้แข็งแกร่ง โอเบรอนพยายามฝืนยืนบนพื้น แต่ทันใดนั้นเอง เงาๆ หนึ่งก็ปรากฏจากด้านหลังของเขา
“นี่จะฆ่านายได้แน่ๆ”
ความหวาดกลัวแล่นไปตามใบหน้าเมื่อเขาหันกลับไปเหลียวมองนักฆ่า,เดน พร้อมๆกับกริชที่ถูกตวัดเข้ามาหาเขา
 

การโจมตีรุนแรงจากนักฆ่า!
ร่างกายเป็นอัมพาต!
พิษกระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว
ถ้าคุณไม่หยุดการไหลของเลือดที่ปากแผล พลังชีวิตจะลดลงลงเรื่อยๆ



กริชพิษของเดนถูกฝังเข้าไปในร่างกายของเขา โอเบรอนไม่สามารถขยับร่างกายที่เป็นอัมพาตนี้ได้เลย
สายตาของฟลาวิโอและเดนสบกัน
“ถ้าเขาฟื้นตัวได้ ที่ทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่า”
“งั้นที่เหลือคือการจัดการเขาสินะ”

ฟลาวิโอ และเดนต่างก็โจมตีด้วยอาวุธของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง พวกเขารวมตัวใกล้กับมังกรโครงกระดูกและร่วมมือกันจัดการกับโอเบรอน

 โอเบรอนไม่สามารถรับการโจมตีของทั้งสองคนพร้อมกันได้ด้วยร่างกายที่เป็นอัมพาตของเขานี้
“ไอ้พวกขี้ขลาดตาขาว! สักวันฉันจะกลับมาล้างแค้นพวกแก!!!”
โอเบรอนประกาศจะแก้แค้นก่อนจะตายไป

คณะสำรวจได้รับแจ้งถึงการตายของโอเบรอน
“กัปตันตายแล้ว”
“ไอ้พวกคนทรยศฆ่ากัปตันของพวกเรา พวกมันต้องตอบแทนอย่างสาสม!”
คณะสำรวจตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน การต่อสู้ที่รุนแรงปะทุขึ้นระหว่างกองกำลังพันธมิตรกิลด์ของโอเบอรอนกับกองกำลังทหารรับจ้างของเทรอส

เทรอสไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้โดยตรง แต่เขาเดินไปยังที่ที่เหล่าดาร์คเกมเมอร์รวมตัวอยู่แทน
‘ยังไงพวกเขาก็เคลื่อนไหวเพราะเงินอยู่แล้ว ถึงแม้ว่ากิลด์โฟรเซ่นโรสจะเป็นกิลด์ที่ใหญ่กว่า เราก็แค่ต้องยื่นข้อเสนอที่ดีกว่าให้พวกเขา’

กิลด์คริมสันวิงนั้นสลายกิลด์อย่างเป็นทางการไปแล้ว แต่แทนที่จะหาที่อยู่ใหม่ พวกเขากลับยึดติดอยู่กับสิ่งที่เหลืออยู่ของพวกเขา
“โวล์ค ผมอยากจะทำสัญญากับคุณ”
เทรอส มองหาโวล์คท่ามกลางเหล่าดาร์คเกมเมอร์
พวกเขาได้รู้จักกันระหว่างเข้าร่วมการทำเควสระดับ A  ณ สุสานของกษัตริย์เบลซอส
“เรามาที่นี่เพราะมีเหตุผล เราจะจ่ายให้คุณถ้าคุณมาช่วยพวกเราแทนที่จะเป็นพวกคณะสำรวจ ถ้าคุณต้องการล่ะก็ เราจะยกไอเทมครึ่งนึงที่ได้จากมังกรโครงกระดูกให้เลย”

เทรอส เชื่อว่าโวล์คและเหล่าดาร์คเกมเมอร์จะยอมรับข้อเสนอนี้  พวกเขามีชีวิตเพื่อเงิน พวกเขาเป็นคนรับจ้างที่พร้อมตายได้ทุกเมื่อเพียงเพราะเงิน แทนที่จะเป็นสายสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนที่เลื่อนลอย เหล่าทหารรับจ้างพวกนี้ กลับเป็นผู้ที่ศรัทธาในโลกความเป็นจริง!
.
.
แต่โวล์คกลับส่ายหน้า
“ผมขอโทษด้วย ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ”
“ทำไมล่ะ? มีปัญหาอะไรกับข้อเสนอของผมเหรอ เรากำลังยื่นข้อเสนอที่ดีกว่าโอเบรอนให้นะ”
“ขอโทษจริงๆ แต่ผมรับเงินล่วงหน้ามาแล้ว”
“ไม่จริงน่า....”
กฎข้อที่ 4 ของดาร์คเกมเมอร์
รับเงินมา รักษาสัญญา ไม่ว่าจะมีผลประโยชน์มากมายขนาดไหนให้คุณเก็บเกี่ยว คุณก็ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้นโดยสิ้นเชิง

ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเมื่อดาร์คเกมเมอร์รับเงินมาแล้วนั้น พวกเขาจะไม่ผิดสัญญาเด็ดขาด เพราะถ้ากลุ่มของพวกเขามีชื่อเสียงในทางไม่ดี พวกเขาจะหาเงินไม่ได้ ดังนั้นเพื่อผลประโยชน์ของดาร์คเกมเมอร์ กฎจึงถูกบัญญัติขึ้น
วินาทีที่คุณยอมรับในสัญญา คุณต้องสาบานว่าจะไม่ละทิ้งมันเด็ดขาด

เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ได้ยินไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ การเสนอเงินออกไปแบบนั้นทำให้ เทรอสรู้สึกแย่มาก
ใบหน้าของเขาบูดบึ้งทันที
“พวกเราสามารถให้คุณได้มากกว่าที่พวกนั้นเคยสัญญาไว้  2 เท่าเลย ไม่สิ 3 เท่าเลยก็ได้นะ”
“ผมขอโทษครับ แต่เราทำไม่ได้ พวกเรามีสัญญาผูกมัดไว้ เมื่อสัญญาครบกำหนดเราถึงจะช่วยได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
เหล่าดาร์คเกมเมอร์ไม่สามารถรับข้อเสนอของเทรอสได้

กรรรรรรรร!
ขณะเดียวกันนั้นเอง มังกรโครงกระดูกและพวกมอนสเตอร์ก็เริ่มโจมตีอย่างหนักหน่วงขึ้น
คณะสำรวจไม่สามารถเพ่งความสนใจไปที่มันได้อีกแล้วเมื่อเหล่ายอดฝีมือกำลังยุ่งอยู่กับการสู้กันเอง
แม้ว่าเหล่าดาร์คเกมเมอร์จะเป็นกลางและเข้าต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์  แต่พวกเขาก็ไม่สามารถป้องกันได้ทุกอย่าง

“กรรรรรร! มนุษย์!!! ฆ่ามัน!!!”
“จงศรัทธาในความชั่วร้าย  ไรด์อีวิล!”
ถึงแม้ว่าพวกมันจะได้รับบาดเจ็บ แต่มังกรโครงกระดูกและเหล่ามอนสเตอร์ก็ยังปลดปล่อยการโจมตีออกมาอย่างดุดัน
หุบเขามรณะกลายเป็นสุสานของใครหลายคน

พอถึงจุดๆหนึ่ง  สมดุลก็เริ่มพังทลาย ฝ่ายที่กุมความได้เปรียบเปลี่ยนมือจากผู้เล่นมาเป็นมังกรโครงกระดูกและเหล่ามอนสเตอร์แทน
“ชิบหาย!”
“เป็นเพราะพวกคนทรยศ!!!”

มันสายไปแล้วที่จะหยุดการสู้กันเองตอนนี้และหันไปโฟกัสที่มอนสเตอร์
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถไว้ใจซึ่งกันและกันได้ และนั่นยิ่งทำให้แย่ขึ้นไปอีก
มันเป็นเรื่องยากสำหรับคณะสำรวจที่จะเชื่อใจคนของเทรอส ที่ฆ่าคนของกิลด์โฟรเซ่นโรส                  
หากพวกเขารวมพลังกันได้อีกครั้ง  ก็คงจะมีโอกาสชนะ แต่ตอนนี้เรื่องนั้นคงเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป และนั่นยิ่งทำให้ความเสียหายมากเป็นทวีคูณ

ในที่สุด  มังกรโครงกระดูกก็สามารถทำลายโซนป้องกันได้
การที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของมังกรโครงกระดูก   การเคลื่อนไหวของมันต้องถูกพันธนาการไว้ด้วยการโจมตีที่รวดเร็วต่อเนื่อง  แต่ด้วยความที่การโจมตีขาดหายไป มันจึงสามารถหลุดออกมาเป็นอิสระได้

ก๊าซซซซซ!
มังกรโครงกระดูกสยายปีกของมัน
เมื่อมันบินออกไป แรงลมกระแทกใส่เทรอสและคนของเขาให้ล้มลง รวมทั้งเหล่านักรบของคณะสำรวจอีกด้วย
“แม่งเอ้ย!”
เทรอส พยายามจะลุกขึ้นให้เร็วที่สุด

วิ้ง!
ในตอนนั้นเอง ดวงตาของมังกรโครงกระดูกก็ส่องสว่าง
มันสูดลมหายใจลึก และเริ่มอ้าปากกว้าง
ฟู่วววววว!
ลมหายใจที่ทรงพลังนั่นทำลายล้าง เทรอสและนักรบแห่งคณะสำรวจได้อย่างราบคาบ
“อ้าาาาาาาา!”
“ช่วยด้วย!”
“ร่างกายฉัน....ร่างกายฉันกำลังละลาย!”

มังกรโครงกระดูกปลดปล่อยลมหายใจมังกร   อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของมัน  
เหล่านักบวช ผู้ใช้ธาตุ และพ่อมดที่มีพลังกายต่ำ เกาะกลุ่มอยู่ด้วยกันอย่างเหนียวแน่น  และพยายามหาหนทางหลบให้พ้น
“ทำไห้ได้!”
“เร็วเข้า!”

ด้วยความหวาดกลัว  พวกเขาพยายามวิ่งหนีเหมือนกับแมลงวันพร้อมๆกับ ที่ร่ายเวทป้องกันออกมาแต่กระนั้น ลมหายใจมังกรก็กวาดผ่านเข้ามา

เหล่าผู้รอดชีวิตพยายามหลีกเลี่ยงความเสียหายด้วยการพยายามรักษาคนที่กำลังได้รับบาดเจ็บหนักไม่ให้ตายลง
เมื่อร่างกายพวกเขากลายเป็นสีดำ พลังชีวิตของพวกเขาก็ลดลงอย่างฮวบฮาบ
นี่เป็นผลมาจากการถูกลมหายใจพิษนั่นโจมตีใส่

พวกเขาร่ายเวทป้องกันเสริมให้พวกนักรบอย่างหนาแน่นเพื่อลดอานุภาพของลมหายใจมังกรนั้น แต่ก็ไม่สามารถป้องกันเหล่านักรบจากการถูกลมหายใจกลืนกินได้
“หัตถ์แห่งการรักษา”
“รักษา!”
“ฟื้นฟู!”
เหล่านักบวชร่ายเวทฟื้นฟูอย่างเร่งรีบ
พวกเขาพยายามลดพลังของพิษพร้อมๆ กับฟื้นฟูพลังชีวิตไปด้วย!
“ต่อต้านพิษ!”
“รักษาพิษ!”
นักบวชร่ายเวทแก้พิษอย่างดุดัน

และต้องขอบคุณความอุตสาหพยายามของพวกเขา    ผู้ที่ถูกลมหายใจมังกรจึงสามารถรอดชีวิตได้ แต่สถานการณ์ตอนนี้แทบจะไม่มีความหวังเหลืออีกแล้ว
ผู้ที่เหลือรอดของคณะสำรวจมีอยู่ราว 400 คน จำนวนของผู้รอดชีวิตนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม  พวกเขาคงไม่สามารถสู้กับมังกรโครงกระดูกได้อีกต่อไป
ตอนนี้คณะสำรวจขาดแคลนนักรบแนวหน้า เหล่านักบวช พ่อมด ผู้ใช้ธาตุ นักธนู บาร์ดและแดนเซอร์ ที่เหล่าอยู่นั้น  เป็นอาชีพที่อ่อนแอต่อการถูกโจมตีทางกาย

“บ้าเอ้ย! มันเกิดขึ้นอีกแล้ว!”
โวล์คบ่นออกมา
เหมือนกับเควสสุดท้ายที่เขารับมา เขาคงได้ตายอีกรอบแน่
 คุณจะได้รางวัลใหญ่ถ้าคุณยอมต่อสู้จนตายเพื่อรักษาสัญญา แต่สำหรับเหล่าดาร์คเกมเมอร์ ความตายนั้นหมายถึงความสูญเสียที่ใหญ่หลวง

เหล่าดาร์คเกมเมอร์รวมทั้งโวล์คและแดริน  รวมตัวอยู่ใกล้ๆ กัน
“เราจะทำยังไงดี?”
“ตามสัญญาเราหนีไม่ได้”
“งั้น......”
“ก็ดี มาสู้กันเถอะ!”

เลือดในกายเริ่มเดือดพล่านไปในตัวดาร์คเกมเมอร์อย่างที่ไม่ได้เป็นมานานแล้ว
เกมโรยัล โร้ด นั้นก็เป็นเหมือนสถานที่ทำงานของเหล่าดาร์กเกมเมอร์ ที่ใช้หาเงิน   แต่พวกเขาก็รักในดินแดนนี้
การได้ต่อสู้กับมอนสเตอร์นั้น  ก็เหมือนการที่พวกเขาถูกบังคับให้กลับบ้านนั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามด้วยพระหัตถ์ของพระเจ้าที่มองไม่เห็น พวกเขาจึงลงเอยด้วยการต่อสู้กับมังกรโครงกระดูกและเหล่ามอนสเตอร์ ซึ่งมันทำให้ภายในอกของพวกเขาร้อนแรงไปด้วยไฟแห่งสปิริต
“โอ้วววววว!”
“ฆ่ามันเลยยย!”
“สับมัน! ฟันมันซะ!”

ด้วยความตื่นเต้น เหล่าดาร์คเกมเมอร์ไม่สนใจมอนสเตอร์ตัวอื่นและเล็งเป้าไปที่มังกรโครงกระดูกอย่างเดียว
“วู้วววว  ตีแม่งๆๆ ตีแม่งให้ตาย !”
“ได้เลยย! นี่มันน่าตื่นเต้นชะมัดเลยเนอะ?”

เมื่อมังกรโครงกระดูกโจมตีจนพวกเขาล้มลง พวกเขาก็เพียงแค่หัวเราะออกมา แล้วก็ลุกขึ้นยืนใหม่ราวกับซอมบี้และพุ่งโจมตีอีกครั้ง!

ในขณะเดียวกัน เหล่านักดาบ (Geomchis) จำต้องจัดการกับพวกมอนสเตอร์
พ่อมดและนักบวชก็ต่อสู้อย่างระมัดระวังพร้อมๆกับคอยสังเกตสิ่งรอบตัวไปด้วย แต่พวกเขาก็ไม่ได้เอาเปรียบพวกนักดาบเกินไปนัก

หลังจากต่อสู้กับมอนสเตอร์จำนวนมากจนร่างกายแทบเป็นผ้าขี้ริ้ว   เขาก็บาดเจ็บไปหมดจนไม่อาจทนได้อีก
“อ้ากกก!”
นักดาบปลดปล่อยอาการบาดเจ็บออกมา ล้มลงกับพื้นและเขาก็ตาย

วีดตัดสินใจจะแทรกแซงการต่อสู้ครั้งนี้หลังจากเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“เราอุตส่าห์หวังว่าจะไม่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้นี่แล้วซะอีก”
ทว่าการตายของนักดาบไม่สามารถถูกมองข้ามได้ แล้วเขาก็ส่งเสียงกระซิบไป
(พี่นักดาบ 16 ครับ)
(หือ? วีดเหรอ?)

นักดาบ 16 พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งขัดกับใบหน้าที่น่ากลัวนั่น
เขาเป็นนักดาบที่อายุมากที่สุดในบรรดานักดาบด้วยกันรองจากอาจารย์  ซึ่งผ่านประสบการณ์สับสนอลหม่านมามากในชีวิตจริง ดังนั้นเขาจึงไม่เคยสูญเสียความเยือกเย็นในการตัดสินใจ
(เราได้ยินเกี่ยวกับการโจมตีโดยลมหายใจมังกรนั่น นี่หมายความว่าท่านอาจารย์อัน ฮุนโด ตายแล้วเหรอ?) --นักดาบ 16 พูด (editor-note)
(ตายแล้วครับ  เพราะเหตุการณ์บางอย่างทำให้ผมรอดชีวิตมาได้ ยังไงก็ตาม ให้ผมช่วยพี่นะ ผมว่าพี่ไปอยู่แนวหลังจะปลอดภัยกว่านะครับ)--วีดพูด
(ไม่เป็นไร นั่นไม่จำเป็นหรอก)

คำพูดของนักดาบ 16 เป็นอะไรที่คาดไม่ถึง
(ได้โปรดรอจนกว่าเราจะตายก่อน)
(ครับ?)
(ให้เราได้มีโอกาสโชว์ให้เธอเห็นว่าเราเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมก่อน)

ใกล้ๆ กับนักดาบ 16 นั้นมีนักบวชสาวแสนสวยที่กำลังสั่นกลัวและร้องไห้ไปพร้อมๆ กับร่ายเวทรักษาให้
ในดินแดนอันหนาวเย็นและอันตรายแห่งนี้   สถานที่ที่มีแต่ความหิวโหยและมอนสเตอร์ร้ายกาจแฝงตัวอยู่เต็มไปหมด,  
หญิงสาวกลับกำลังมองดูบุรุษที่กำลังเสี่ยงชีวิตของตนเองอยู่!

นักดาบ 16 ตัดสินใจจะเสียสละตนเอง
ในโลกความเป็นจริง เหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะนักดาบ 16 คงสามารถจัดการตื้บพวกที่มารังแกได้ในพริบตาเดียว

ในที่สุด นักดาบ 16 ก็ล้มลงอย่างสง่างามระหว่างที่กำลังต่อสู้กับทหารปีศาจ
พลังชีวิตของเขาลดต่ำลงมากจนถึงระดับที่เวทรักษาไม่สามารถช่วยเขาได้
“ฉันขอโทษนะคะ สกิลของฉันยังไม่ดีพอ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าฉันเป็นฝ่ายที่ตายแทน....”
“....ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว”

ดวงตากลมโตของนักบวชสาวแห่งวิหารเยเวน (Yevhen) เต็มไปด้วยน้ำตา
เธอจ้องมองไปที่นักดาบ 16
ในสนามรบที่โหดร้ายแห่งนี้  เขามักจะคอยดูแลเธออยู่เสมอ
ตอนนี้ เขากำลังจะจากไป

“ต้องจากกันอีกแล้วนะครับ   ซักวันเราคงได้พบกันอีก หวังว่าตอนนั้นผมคงจะได้ปกป้องคุณอีกครั้ง     คุณจะให้เกียรตินั้นแก่ผมได้ไหมครับ?”
นักดาบ 16 ใช้เวลาหลายวันในการเตรียมพร้อมสำหรับวินาทีนี้ เขาฝึกมาอย่างดีภายใต้การควบคุมของปรมาจารย์เพลย์บอยอย่างเซเฟอร์
เซเฟอร์นั้นบอกว่า   สำหรับผู้หญิงแล้ว น้ำเสียงที่แสดงถึงความเสียใจเพราะไม่อาจปกป้องพวกหล่อนได้นั้น  มักจะจับจิตจับใจของหญิงสาวได้ดีนักแล

“ฮึก ค่ะ ฉันชื่อลิบบี้นะคะ”
“นักดาบ 16 ครับ”
ยืนยันการเป็นเพื่อน!

เมื่อบรรลุสิ่งที่อยากได้แล้ว นักดาบ 16 ก็พร้อมที่จะตายในที่สุด
‘ตูทำได้แล้ว ครอกก’
.
.
.
วีดออกมาจากที่ซ่อนตัว
ร่างกายที่ถูกสร้างขึ้นมาจากกระดูกล้วนๆ!
เงาร่างของโครงกระดูกมุ่งตรงไปยังคณะสำรวจ

เล่มที่ 10 ตอนที่ 2 จบ


<a href='https://ads.dek-d.com/adserver/adclick.php?n=a6753880' target='_blank'><img src='https://ads.dek-d.com/adserver/adview.php?what=zone:696&amp;n=a6753880' border='0' alt=''></a>

2 ความคิดเห็น: