วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่มที่ 10 ตอนที่ 8 หอคอยแห่งแสง (The Tower of Light)

เล่มที่ 10 ตอนที่ 8 หอคอยแห่งแสง (The Tower of Light)


ทันทีที่ลีฮุนออกมาจากแคปซูล   เขาก็เชื่อมต่อเข้าเว็บไซต์ขายของทันที
-รับซื้อธนูเอลฟ์
-รับซื้อธนูเอลฟ์ครับ  จะเป็นธนูของดาร์กเอล์ฟ หรือวู้ดเอลฟ์ก็ได้
- จ่ายอย่างงามสำหรับธนูขั้นแรร์หรือยูนิกเลเวล 300   ให้ราคาดีกว่าราคาตลาดทั่วไป
กระทู้ที่เต็มไปทั่วเว็บบอร์ดแสดงให้เห็นถึงจำนวนของนักธนูภายในเกม  ราคาสินค้าสำหรับอาชีพนี้สูงมากเนื่องจากปริมาณสินค้ามีจำกัด
วีดยิ้มต่อสิ่งเหล่านี้
 ‘แจ่มไปเลย’

ธนูไฮเอลฟ์!
ถ้าเขาเอามันขึ้นในเว็บไซต์ประมูลล่ะก็  คงจะได้ราคาดีมาก
มูลค่าของอาวุธระดับเลเวล 400 นั้นสูงมาก ยิ่งกว่านั้นมันยังมีคุณสมบัติเสริมที่หลากหลาย อย่างเช่นพลังโจมตีที่สูง และระยะการโจมตีที่ไกล
อาวุธของเอลฟ์นั้นมีประโยชน์หลากหลายประการ

“ด้วยเงินจำนวนมากขนาดนั้น เราคงเก็บไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ 2 ถึง 3 เดือน เลยล่ะ”
ลี ฮุนนั้นตื่นเต้นมาก
เขาอยากจะลงทะเบียนสร้อยข้อมือของกษัตริย์กับธนูไฮเอลฟ์ในเว็บไซต์ประมูล แต่เขาตัดสินใจระงับแรงกระตุ้นนั้นไว้ก่อน
มันไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงแต่อย่างใดถ้าจะบอกว่ายูนิกไอเท็มนั้นจะเปลี่ยนเป็นเงินเมื่อไหร่ก็ได้
เพราะเพียงแค่วางขายพวกมันก็จะได้รับเงินมาแล้ว

“คนอื่นๆ มีของดีให้ใช้  เราก็มีเหมือนกัน”
จุดประสงค์ของการได้ไอเท็มดีๆ มาก็คือ สวมใส่มันและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก!
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเก็บพวกมันไว้กับตัวสักระยะหนึ่ง
ลีฮุนเลิกดูเว็บบอร์ด และเดินออกจากบ้านไป
“ไม่ได้รู้สึกดีขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ”
ลีฮุนมุ่งหน้าไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
***

ซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ที่ชั้น 5 ของห้างสรรพสินค้านั้นมีลูกค้ามาใช้บริการขวักไขว่
เป็นเรื่องค่อนข้างแปลกที่ลีฮุนมาที่นี่
‘ร้านของชำนั้นมีของราคาถูกก็จริง แต่คุณภาพก็ต่ำตามไปด้วย’
ลีฮุนตามปกติจะไม่มีทางมาที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างเด็ดขาด เพราะโดยทั่วไปราคาของสินค้าที่นี่นั้นค่อนข้างแพง
ถ้าจะหาของอย่างไข่หรือเนื้อสัตว์ มันเทียบไม่ได้กับที่ขายในตลาดสดเลย ยกเว้นอย่างเดียวคือตอนที่มันซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง
 ‘ดูๆ ไปแล้ว ก็มีแต่ของไร้ประโยชน์นะ แถมเกือบทั้งหมดยังขายราคาแพงเว่อร์’
เมื่อมองดูราคาแล้ว เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง  การจะมาช้อปปิ้งที่ซูเปอร์มาร์เก็ตนี่คงจะทำให้เกินงบที่เขามีแน่ๆ
ซึ่งต่อให้เอาประโยชน์และความสะดวกสบายมารวมก็ยังไม่อาจเทียบได้กับของราคาถูกที่ซื้อได้จากตลาดสดเลย
ลีฮุนได้ก้าวเข้ามายังสถานที่เช่นนี้

ลีฮุนดึงรถเข็นออกมา
“โอเค ถึงเวลาช้อปแล้ว!”
เขากำลังช้อปปิ้งเพื่อฉลองความโชคดีของตน!
ฮุนเลือกได้แต่ของที่คุณก็ไม่อาจจะจินตนาการว่าจะมีคนหาได้  เขาเลือกสินค้าราคาไม่แพงจำนวนมาก แทนที่จะเลือกสินค้ามียี่ห้อ
“เอาพายชิววี่ช็อกโก้สัก 2 กล่องดีไหมนะ  แต่ 3 กล่องก็กำลังดี    เอ.. 3 กล่องเหรอ   เอา 4 ไปเลยดีไหมหว่า?”
ลีฮุนสับสนไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ส่ายหัว
“โอ๊ะ ใช่แล้ว  เราจะเอา 4 หรือ 5 กล่องก็ได้  แต่ 4 กล่องนี่ก็น่าจะพอแล้ว  พนันได้เลยว่าเราคงไม่เอาอีกแล้ว ฮ่าๆๆ  ขนมพวกนี้น่าอร่อยจริงๆ”  t/n เอ็งไหวปะ -_-
อย่างไรก็ตาม  เมื่อมาถึงการซื้อของใช้ในครัว มันกลับกลายเป็นเรื่องยาก
น้ำมันมะกอกราคาแพงเป็นสองเท่าของน้ำมันทำอาหารทั่วไป!
เขาซื้อกล่องเกลือที่ถูกแพ็คแยกไว้ต่างหาก
เขาอยากรู้ความแตกต่างระหว่างเกลือที่แพงกว่า 200 วอน นี้!
“ค่อนข้างฟุ้งเฟ้อไปไหมเรา”
***

การเล่นเกมของซอยูนทุกวินาที ถูกซา อึนฮี บันทึกไว้หมด
“น่าอิจฉาจัง   คงจะดีถ้าเราได้ไปผจญภัยแบบนั้นบ้าง”
เธอเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับตัววีดทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว

มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเสาะหาคนที่โด่งดังในอินเตอร์เน็ต
เธอรู้ชื่อเขา  แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงในอดีต
ข้อมูลที่เธอพบนั้นมีแค่ ผลงานอันน่าเหลือเชื่อของเขาในเกม คอนทิเนนท์ออฟเมจิก  และสิ่งที่เขาเป็นอยู่ในรอยัลโร้ดตอนนี้
ข้อมูลที่ปรากฏต่อหน้าชาอึนฮีนั้นช่างเหลือเชื่อ  คนคนนี้ ด้วยโอกาสเพียงน้อยนิด กลับโชคดีและกลายมาเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว
“ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม...อีกทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดัง”
เธอแทบไม่อยากจะเชื่อจนกระทั่งได้เห็นด้วยตาตนเอง
จากนั้นเธอก็ได้เห็นภารกิจในวีดิโอ  การล่าแวมไพร์สายเลือดแท้   การสร้างพีระมิด และการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ในที่ราบแห่งความสิ้นหวังที่ทุกคนพูดถึง!
นับจากนั้นเองที่ ชาอึนฮีกลายมาเป็นแฟนเกมรอยัลโร้ด
ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นทำให้เธอยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้นไปอีก
 “ชอบนักผจญภัยวีดที่สุดเลย”
ความหลงใหลในความเพียรพยายาม!
ชา อึนฮีนั้นหมกมุ่นจดจ่ออยู่กับความคิดของตนเองอย่างอดทนเพื่อที่จะแก้ไขภารกิจ
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ปรากฏในการผจญภัยของวีด  ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับแวมไพร์สายเลือดแท้  หรือตอนที่ราบแห่งความสิ้นหวัง
เขาได้ประสบและเอาชัยเหนือภารกิจเหล่านั้น  อย่างไรก็ตามภารกิจพวกนี้ก็ไม่ใช่ภารกิจสำคัญในทวีปเวอร์เซลล์

คณะสำรวจจากอาณาจักรที่ออกเดินทางไปค้นหาในผืนป่านิรนาม
นักผจญภัยที่มุ่งหน้าไปสำรวจโบราณสถานและดันเจี้ยนใหม่ๆ
การรับภารกิจเพื่อเคลียร์ซ่องโจรซึ่งเป็นอดีตขุนนาง
การท่องเที่ยวไปยังอาณาจักรใหม่ๆ และสัมผัสกับการผจญภัยและภารกิจอันน่าตื่นเต้น  สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่รวมกันเป็นทวีปเวอร์เซลล์
แต่กระนั้น  การผจญภัยของวีดกลับมีสิ่งพิเศษที่การผจญภัยของคนอื่นๆ ไม่มี
นั่นคือสิ่งที่ชา อึนฮีต้องการค้นหา
 “แม้จะค่อยๆ ก้าวไปทีละขั้น แค่สถานการณ์ที่ไม่คาดฝันก็มักจะเกิดขึ้นและขัดขวางความพยายามของพวกเขา  ซึ่งนั่นพาทำให้ผู้คนต่างยอมแพ้”
ภารกิจเกือบทั้งหมดล้มเหลว  ยิ่งเป็นภารกิจที่ยากขึ้นเท่าใด ความเป็นไปได้ที่จะล้มเหลวก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
วีดนั้นก็เป็นมนุษย์เหมือนกับคนอื่นๆ แต่ผู้คนก็ไม่อาจจะละสายตาไปจากภารกิจของเขาได้
พฤติกรรมที่ไม่อาจคาดหมายได้นั้นเป็นจุดเด่นของวีด
เขาไม่เหมือนผู้เล่นคนอื่น  เขาแก้ไขภารกิจโดยไม่ได้อาศัยแค่ความแข็งแกร่งหรือเลเวล แต่ด้วยความแปลกแหวกแนว

ความตึงเครียดที่มาพร้อมกับความตื่นเต้น
เสน่ห์ของเขาที่แสดงออกมาในขณะที่กำลังบัญชาการพวกออร์คและดาร์กเอลฟ์
ผู้คนมักจะประหลาดใจกับทักษะฝีมือการต่อสู้ของเขาอยู่เสมอ  แต่มันเป็นเหมือนเอกลักษณ์ของเขาไปแล้ว  จิตวิญญาณที่เขาแสดงออกมานั้นทำให้ผู้คนต่างหลงใหล
 “ในคอนทิเนนท์ออฟเมจิก ดูเหมือนเขาจะได้รับความนิยมเพราะเหตุผลบางอย่าง   แต่ตอนนี้เขากำลังสร้างตำนานใหม่ในรอยัลโร้ด  การมีคนมาชื่นชอบจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้”
ชา อึนฮีต้องยอมรับว่า เธอจำไม่ได้แล้วว่าย้อนไปดูฉากที่วีดสู้กับมังกรไปกี่ครั้ง ซึ่งคนอื่นๆ เกือบทั้งหมดต่างก็วนดูกันไปหลายสิบรอบด้วยซ้ำ
ดูเหมือนว่าวีดนั้นจะยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้นไปอีก
ทันใดนั้นเอง ชาอึนฮึก็ต้องประหลาดใจเมื่อเธอดูวีดิโอในแคปซูลของซอยูน

- เพื่อน...
แม้มันจะเป็นเพียงแค่คำคำเดียว  แต่ซอยูนก็เปิดปากพูดแล้ว
ซอยูนไม่ต้องการแยกจากวีดและจำต้องพูดออกมา
จากนั้นวีดก็ตอบรับคำของเธอ
แต่ซอยูนก็ไม่มีเวลาพูดอย่างอื่นอีก
 “คงเป็นเพราะเธอไม่ได้พูดมานาน  เธอจึงไม่สามารถพูดโต้ตอบได้อีก”
ชา อึนฮีรู้สึกสงสารซอยูน  สำหรับคนอย่างเธอที่ใช้ชีวิตมาเนิ่นนานโดยไม่ได้พูดกับใครย่อมลืมไปแล้วว่าต้องพูดกับคนอื่นอย่างไร
การพูดจากลายเป็นเรื่องติดขัด และเธอคงไม่อยากจะพูดอะไรที่ทำให้รู้สึกอับอาย
***

หลังจากที่เพลและโรมูเนะกลับจากเทือกเขายุโรกิ   พวกเขาก็มาต้อนรับยูรินอย่างอบอุ่น
‘นี่สินะน้องสาวของวีด’

ฮวารยองไม่ทราบว่ายูรินเป็นคนในครอบครัวของคนที่เธอชอบ  คนอื่นๆ ต่างสงสัยเล็กน้อยเมื่อยูรินเข้าร่วมปาร์ตี้  เพลเกาหัวเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า
“ยูริน...มันค่อนข้างจะอันตรายนะ  ไปกับพวกเราจะดีเหรอ?”
ในฐานะที่เป็นผู้นำปาร์ตี้  เพลถามอย่างระมัดระวังเพื่อมิให้เธอต้องเจ็บตัว
“ดูนั่น...เทือกเขายุโรกิไม่ใช่สถานที่ล่าง่ายๆ นะ  มีมอนสเตอร์อยู่เยอะมากและบางครั้งพวกเราก็ถึงตายเลยล่ะ  เราไปที่ง่ายๆ และเหมาะกับผู้เริ่มต้นจะดีกว่าไหม?”
ยูรินขบคิดชั่วขณะและจากนั้นเธอก็ส่ายหัว
“ไม่เป็นไรค่ะ  ยิ่งยากสิยิ่งดี”
“แต่มันอันตรายจริงๆ น้า...”
 “หนูรู้ค่ะ   หนูก็แค่ต้องมองหาที่ปลอดภัยๆ แล้วก็นั่งวาดมอนสเตอร์ไป”
“ถ้างั้นก็ไปกัน  บอกพวกเรานะถ้าน้องอยู่ในอันตราย เดี๋ยวจะช่วยป้องกันให้”
“โอเคค่า”



ยูรินนั่งบนพื้นและหยิบอุปกรณ์วาดรูปออกมา
จากนั้นไม่นานเธอก็วาดรูปเพลที่กำลังยิงธนูใส่มอนสเตอร์
ควับ ควับ!
ยูรินเคลื่อนดินสออย่างรวดเร็วบนผ้าใบ จากนั้นก็ลงสีภาพออร์คดุดันที่กำลังวิ่งอยู่รอบๆ
ตริ้ง!
-คุณใช้ทักษะวาดรูป  
คุณได้ลงสีออร์ค  สำเร็จอย่างยอดเยี่ยม!  ภาพวาดนี้จารึกชื่อให้ออร์ค
การวาดทำให้ออร์คยิ่งดุร้ายยิ่งขึ้น
-ทักษะวาดรูปพัฒนาขึ้น
ภาพวาดทำให้ออร์คอีโวขึ้นเป็นมอนสเตอร์ที่มีชื่อ
มอนสเตอร์ที่มีชื่อจะแข็งแกร่งขึ้น 20%
มอนสเตอร์ที่มีชื่อจะให้ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นและมีอัตราดรอบไอเทมดีขึ้น
นี่คือทักษะลับของจิตรกร!
“โอ้ มอนสเตอร์มีชื่อล่ะ”
“เซอร์กะ ซื้อเวลาให้หน่อย  เดี๋ยวพี่จะเตรียมเวทที่แรงขึ้น”
“โอเคค่ะพี่สาว”
ปาร์ตี้ต้องต่อสู้อย่างดุเดือดกับมอนสเตอร์ที่ได้รับบัฟเสริมจากการวาดภาพ

ยูรินเริ่มขีดๆ เขียนๆ เหนือภาพออร์ค
เธอเติมหนวดให้ใบหน้าที่น่ากลัวของออร์คนั้น ใส่แว่นให้มัน พร้อมกับให้มันถือหนังสือราวกับมันกำลังควบคุมการแสดง

-คุณใช้ทักษะขีดเส้นขยุกขยิก
ตอนนี้ออร์คจะกลายเป็นออร์คที่สุภาพและเฉื่อยชา
ศัตรูบาดเจ็บจากแผลที่สีข้าง บริเวณนี้จะเป็นจุดอ่อนสำคัญของมัน

ด้วยทักษะที่เธอมี ทำให้ยูรินช่วยเหลือปาร์ตี้ได้อย่างดี แม้เธอจะไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้โดยตรง
การได้มองยูรินซึ่งสวมฮู้ดราวกับหนูน้อยหมวกแดง และวาดภาพอยู่เงียบๆ  ทำให้คนอื่นๆ ต่างอยากเข้าสวมกอดเธอ
แต่ภาพที่เธอวาดออกมานั้นช่างเลือดสาดเหลือเกิน  มันเป็นภาพที่ออร์คผู้ซึ่งรู้กันว่าเป็นผู้ครองผืนป่า ถูกโยนไปมาราวกับกระต่าย แล้วบนหัวของออร์คนั้นก็ถูกเสียบไปด้วยงูทองคำสวยงาม 3 ตัว
ยูรินเป็นเด็กสาวที่น่ารัก  แต่ภาพนั้นแสดงออกถึงความจริงที่โหดร้าย
การข่มเหงอย่างไร้มนุษยธรรม!
เพลพยักหน้าเล็กน้อย
‘น้องสาวของวีดชัวป้าป’
เลือดที่ไหลเวียนในตัวยูรินนั้นเป็นแบบเดียวกับวีดแน่ๆ
***

ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับทวีปเวอร์เซลล์ออกมา ยอดผู้ชมมักจะพุ่งสูงขึ้นเสมอ
โอ จูวาน และชิน เฮมิน ถ่ายทอดรายการสนทนากับผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่ง
“ไม่กี่วันก่อน ผู้เล่นอาชีพสายต่อสู้ได้เข้าครอบครองปราสาท”
“วอริเออร์กับอัศวินนั้นดูเหมือนจะเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมที่สุดในการเข้าครอบครองปราสาท มีบ้างที่เป็นนักเวทแต่ก็ไม่มากนัก”
 “สายอาชีพที่เด่นในด้านการเป็นผู้นำคนอื่นเข้าสู่การต่อสู้นี่ดูดีทีเดียว”
“อย่างไรก็ตาม  นี่เป็นครั้งแรกที่อาชีพแบล็กสมิทที่มีเงินมากพอนั้นก็สามารถกลายเป็นเจ้าของปราสาทได้”
ผู้เชี่ยวชาญในทวีปเวอร์เซลล์ต่างถกความเห็นกัน
“จริงเหรอ”
“ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะทำยังไง”
“บางทีอาจจะบังเอิญรึเปล่า?  หรือไม่ก็มีสถานการณ์พิเศษบางอย่าง?”

หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปหลังจากสามารถซื้อปราสาทมาได้
การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรซึ่งสนใจในแร่โลหะ
ผู้อยู่อาศัยที่พูดถึงแร่โลหะ และมอบภารกิจที่เกี่ยวข้องกับมัน ซึ่งโดยปกติมักจะเป็นการถลุงแร่วัตถุดิบ หรือสร้างไอเท็มพิเศษบางอย่าง

จำนวนภารกิจสำหรับอาชีพแบล็กสมิทนั้นมีจำกัด และเกือบทุกครั้งที่เควสนั้นยากเกินกว่าที่อาชีพแบล็กสมิทจะทำได้สำเร็จ  อีกทั้งยังมีความจริงที่ว่า ค่าชื่อเสียงที่ไม่เพียงพอนั้นยังทำให้แบล็กสมิทไม่สามารถรับภารกิจได้  และเพราะนานๆ ครั้งถึงมีเควสให้ทำ เหล่าแบล็กสมิทจึงจำต้องนั่งทำงานทั้งวันเพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญในทักษะ

ในปราสาทของแบล็กสมิทนั้น ภารกิจที่มีค่อนข้างเบสิก  แต่รางวัลที่ได้รับจากภารกิจเหล่านั้นก็ค่อนข้างดี
จากการสร้างอาวุธและชุดเกราะที่เหมาะสมกับภารกิจ ทำให้ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
อาวุธที่เป็นที่ต้องการของภารกิจนั้นอาจจะต้องใช้ทักษะที่มากขึ้น และถึงแม้ผลลัพธ์จะไม่ดีนัก แต่แบล็กสมิทก็ยังได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสม ซึ่งนั่นช่วยบรรเทาภาระให้พวกเขาได้อย่างมาก

“ผมคิดว่าต้องขอบคุณปราสาทนี้ ที่ทำให้อาชีพสายแบล็กสมิทและช่างฝีมืออื่นๆ ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น”
“ช่างฝีมือเหรอ?”
ฮาน กิล ตาลุกวาว
สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
 “ใช่แล้ว  ผมคิดว่าปราสาทใหม่นั่นคงทำให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น และคุณค่าของอาชีพแบล็กสมิทก็จะเพิ่มขึ้นมาก”
“นั่นหมายความว่า...”
ทุกสายตาต่างจ้องมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญ
“อาชีพของเจ้าของปราสาทนั้นจะสามารถสร้างผลกระทบที่สำคัญให้กับทวีปได้”
บทสรุปทั้งหมดพุ่งมาบรรจบที่จุดเดียวกัน  หาไม่แล้วผู้คนก็คงจะไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้

ชิน เฮ มิน ถามขึ้นอย่างสงสัย
 “จากผู้ครอบครองปราสาทคนใหม่ที่เป็นแบล็กสมิทนี้ เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบไหนเหรอคะ?”
“ยังเร็วไปที่จะสรุปผลที่ชัดเจนได้ครับ”
พวกผู้เชี่ยวชาญเริ่มเบี่ยงประเด็นด้วยคำพูดที่ไม่ชัดเจน จากนั้นเขาก็กล่าวว่า
“การพัฒนาอย่างแรกที่พวกเราอาจจะได้เห็นในปราสาทนั้นก็คือ เทคโนโลยีจะพัฒนาไปมากกว่าเมืองอื่นๆ  อาชีพแบล็กสมิทจะขายอาวุธและชุดเกราะได้มากขึ้น และแน่นอนว่าคุณภาพของไอเท็มพวกนี้ย่อมดีขึ้นเป็นแน่”
 “ในอีกแง่หนึ่ง นั่นหมายความว่า  สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นจุดขายของปราสาทนั้น?”
“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น  จากข้อมูลที่ได้รับมา  มาตรฐานของอาวุธปัจจุบันก็สูงกว่าทั่วไปแล้ว และยังมีสัญญาณของผลลัพธ์ด้านบวกอีกด้วย เพราะฝึกทหารในปราสาทนั้นย่อมง่ายกว่าฝึกนักเวทมาก”
ชิน เฮมิน พยักหน้าให้กับสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
หากเป็นปราสาทที่มีเจ้าของเป็นสายอาชีพต่อสู้ ย่อมสามารถฝึกทหารที่แข็งแกร่งได้โดยง่าย
ส่วนเจ้าของปราสาทที่เป็นนักเวทย์จะทำให้พลังเวทโดยรวมเพิ่มขึ้น
ซึ่งสายอาชีพแบล็กสมิทนั้นก็สามารถให้ผลลัพธ์ได้คล้ายคลึงกับอาชีพสายต่อสู้
***


เมื่อวีดกลับเข้ามายังทวีปเวอร์เซลล์  ดวงอาทิตย์ก็ตกแล้ว  ตอนนี้กำลังเป็นเวลาค่ำคืน
ดวงดาวเปล่งประกายระยิบระยับอยู่ท่ามกลางท้องนภา
หมู่เมฆดำทะมึนลอยล่องอยู่เหนือหัว
สายฟ้าแล่บที่พุ่งลงมาจากฝืนฟ้า
คนทั้งทวีปกำลังยุ่งอยู่กับการนั่งดูทีวี
“บ้าชิบ อาชีพต้องสาปนี่มันบังคับให้เรากลายเป็นลอร์ด (Lord)”
การบ่นคร่ำครวญให้กับอาชีพต้องสาปของเขาไม่เคยหยุดลง

เมืองแห่งศิลปะ โรเดียม
ในความเป็นจริง มันเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยขอทาน

ไม่มีอะไรการันตีว่า หลังจากวีดได้ครองเมืองแล้วจะไม่มีใครมาบุกยึด
รีดภาษีสูงๆ!
บีบคั้นชาวเมืองและเอาภาษีออกมาให้มาก
ฝึกทหารไปสู้มอนสเตอร์แล้วขนเงินและไอเท็มกลับมา!
สำหรับเผด็จการผู้ชั่วร้ายอย่างวีดแล้ว  นี่คือความฝันของเขา

“เอาจริงๆ ความสงบสุขงั้นเหรอ...ไม่เห็นจำเป็นเลย”
วีดนั้นอยากเป็นเผด็จการ
แต่พ่อค้าไม่ได้มาที่เมืองโมราต้า เพราะเมืองนี้มันห่างไกลจากคำว่าเมืองศูนย์การค้ามาก  ไม่มีทั้งป้อมที่มีชื่อเสียงอยู่ชายแดน และยังไม่มีสถานที่ล่าดีๆ
“แต่การได้เป็นลอร์ดนั้นควรจะนำประโยชน์มาให้บ้างสิ ใช่ไหม?  เปิดหน้าต่างสถานะเมือง!”
ลอร์ดวีด ได้รับอนุญาตให้ใช้คำสั่งนี้

เมืองโมราต้า
เมืองที่อยู่ในอารักษ์ของอาณาจักรนิฟเฮล์ม
ในอดีตนั้น จักรพรรดิได้นำความรุ่งโรจน์มาสู่ที่นี่ แต่ปัจจุบันนั้นยากที่จะจินตนาการถึง
กำลังทหาร 20 เศรษฐกิจ 90
วัฒนธรรม 120 เทคโนโลยี 190
ศาสนา 80 การพัฒนาเมือง 62
ความปลอดภัย 98%
ปัจจุบันยังไม่มีทหารหรือกองทหารคอยดูแลความปลอดภัยในเมืองนี้
เมืองนี้จะได้รับการคุ้มครองจากวิหารแห่งเฟรย่าเป็นเวลา 1 ปี
มีสิ่งก่อสร้างเล็กน้อย  ประชากรยากจนมาก  เหล่าพ่อค้าเคยมาเยี่ยมดินแดนนี้
จำเป็นเร่งด่วนที่ต้องพัฒนาความเป็นอยู่ของประชากร
งานเทศกาลและงานประติมากรรมจะช่วยให้ประชากรผู้อยู่อาศัยมีความสุข
ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงวัฒนธรรมสำหรับประชากรเพื่อให้พวกเขาลืมเลือนอดีตที่เลวร้าย
อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและงานเย็บปักที่เก่าแก่อยู่ในระยะถดถอย
  ประชากรท้องถิ่นศรัทธาในวิหารแห่งเฟรย่าในฐานะที่เป็นศาสนาของพวกเขา
  ในอนาคตนั้น ดูเหมือนว่าวิหารแห่งเฟรย่าจะกลายเป็นศูนย์กลางความเชื่อหลักของอาณาจักร

จุดเด่น: การผลิตเสื้อผ้าและย้อมหนังสัตว์
จำนวนประชากรทั้งหมด : 7,863 คน
รายได้จากภาษีต่อเดือน : 2,300 เหรีญทอง
สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการหมู่บ้าน :
กำลังทหาร  20%
การพัฒนาเศรษฐกิจ 20%
การบำรุงรักษาหมู่บ้าน 45%
เงินบริจาคให้วิหารแห่งเฟรย่า 15%


จากข้อมูลที่วีดได้นั้น
“หมู่บ้านบารันในโรเซ็นไฮม์ยังเจริญกว่าอีกเรอะ!”
หมู่บ้านในแดนใต้ของโรเซ็นไฮม์นั้นมักจะถูกมอนสเตอร์เข้าโจมตีอยู่เสมอ

ลองมาคิดดูแล้ว เมืองโมราต้านี้ตกต่ำลงไปก็เพราะพวกแวมไพร์และทำให้หยุดการพัฒนาไป
วีดเสียใจซะแล้ว เขามีเรื่องให้เสียใจอยู่หลายอย่าง  แต่เขารู้สึกว่าเรื่องนี้จะทิ่มแทงเขาไปถึงกระดูกเลยทีเดียว
“นี่ต้องเป็นบทลงโทษจากการที่เราซื้อเกลือที่แพงกว่าปกติ 200 วอน แน่ๆ”

การพัฒนากำลังทหารและเศรษฐกิจนั้นจำต้องใช้เงินจำนวนมาก  ซึ่งหากจะพัฒนาเมืองโมราต้าให้เป็นเมืองที่รุ่งเรืองจนน่าอิจฉา มันคงต้องใช้เป็นแสนเหรียญ ไม่สิ เป็นล้านเหรียญทองเลยทีเดียว
วีดไม่มีทั้งเงินทั้งเวลามาทำแบบนั้น
“ตำแหน่งนี้สำหรับดาร์กเกมเมอร์แล้วคงเป็นได้แค่ของฟุ่มเฟือยเท่านั้น”
ปัจจุบันในทวีปเวอร์เซลล์มีลอร์ดที่เป็นผู้เล่นอยู่ในอาณาจักรต่างๆ จำนวน 76 คน  เกือบทั้งหมดนั้นกำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย
การปกครองและพัฒนาเมือง จะทำให้คุณได้รับชื่อเสียงเงินทอง!  อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่งานง่ายๆ
***
เมืองโมราต้ามีภูเขาหินและกองหินหลายลูกอยู่รอบๆ
หลังจากน้ำแข็งที่ปกคลุมละลายไป  ยอดหินก็ปรากฏขึ้น
วีดไต่เขาขึ้นไปพร้อมกับถือมีดแกะสลักของซาฮับ
“เราต้องอาศัยแรงกายของเราแล้ว!”
งานกรรมกรขั้นสุด!
ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน  วีดไม่เคยลืมที่จะสร้างรูปสลัก
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นเขาสร้างรูปสลักขึ้นมาหลายชิ้น   มีทั้งรูปสลักบุรุษผู้แข็งแกร่งกำลังรำดาบ
เมื่อพระจันทร์ขึ้น ก็มีรูปสลักของสตรีเช่นกัน  แต่วีดยังไม่หยุดแค่นั้น
“สลักแสงจันทร์!”
ทักษะแกะสลักพิเศษที่ทำให้รูปสลักเปล่งแสงออกมา
งานแกะสลักยากยิ่งขึ้นเมื่อต้องใช้ทักษะร่วมด้วย
แกรก แกรก!
เขาแกะสลักหินเป็นเรียวแขน
หินที่ใช้แกะนั้นไม่แข็งมาก  ไม่เหมือนหินอื่นๆที่เขาใช้ในอดีต  เพื่อรักษาความรู้สึกในการแกะสลัก วีดจำเป็นต้องใส่ใจ่ต่อวัสดุที่ใช้

ซอยูน
เขาใช้เวลาหลายเดือนร่วมกับเธอ
มันเป็นงานยากในการแกะสลักรูปผู้คนทำสิ่งที่แตกต่าง กันอย่างเช่นการเต้นรำ
หญิงสาวที่กำลังเต้นรำด้วยขาข้างเดียว
ทหารสี่นายที่กำลังกวัดแกว่งหอกยาว
รูปสลักพวกนี้แตกหักได้อย่างง่ายๆ
แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้  เพราะเขายังไม่เชี่ยวชาญทักษะสลักแสงจันทร์ถึงขั้นมาสเตอร์
 “ถ้าพลาดก็ช่วยไม่ได้นะ”
วีดกล้าที่จะยอมรับความสูญเสีย  แต่สิ่งเหล่านี้หากสำเร็จมันก็คุ้มค่า
รูปสลักของบุรุษซึ่งเปลือยท่อนและโชว์ออฟอยู่แถวๆ แคมป์ไฟ
รูปสลักของหญิงสาวที่เต้นรำอย่างน่าหลงใหล
เป็นการเต้นที่เต็มไปด้วยพลัง!
ความทรงจำของงานเทศกาลยามค่ำคืนในเมืองโมราต้าได้ถูกสร้างขึ้น
มันใช้เวลามากกว่า 10 วัน จึงจะสำเร็จ
-โปรดตั้งชื่อให้รูปสลัก
วีดคิดชื่อหรูๆ เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
“ค่ำคืนแห่งโมราต้า”
บางทีเขาก็คิดชื่อดีๆได้เหมือนกัน!  เขานึกถึงภาพยนตร์ที่เคยดูตอนเด็ก   วีดจำชื่อเรื่องไม่ค่อยได้   แต่เขาก็ตัดสินใจใช้ชื่อนี้

-ค่ำคืนแห่งโมราต้า ใช่หรือไม่?
“อ่าฮะ”
ตริ้ง!
งานประติมากรรมแสงจันทร์ระดับมาสเตอร์พีช!
คุณสร้าง ค่ำคืนแห่งโมราต้าได้สำเร็จ!
งานที่สื่อถึงผู้คนที่กำลังเต้นรำ! การเต้นที่น่าทึ่ง น่าหลงใหลและเปี่ยมไปด้วยพลังเกิดขึ้นแล้ว
ช่างน่าเสียดายที่รูปสลักเสียหายไปบ้างระหว่างการสร้าง
รูปสลักที่ไม่สมบูรณ์
แต่ด้วยชื่อเสียงของประติมากรชั้นยอด ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ความผิดพลาด
คำเล่าลือจะถูกพูดถึงไปหลายปี
จะไม่มีใครลืมความคิดสร้างสรรค์และทักษะงานศิลป์ที่ประติมากรผู้สร้างใช้
ชื่อของประติมากรรมชิ้นนี้จะคงอยู่ในประวัติศาสตร์ของทวีปเวอร์เซลล์

คุณค่าทางศิลป์: ผลงานชั้นเยี่ยมที่ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของประติมากรวีด  6,300
ผลลัพธ์:
รูปสลักค่ำคืนแห่งโมราต้า จะมอบ
เวลากลางวัน พลังชีวิตและมานาจะฟื้นฟูเร็วขึ้น 15%
พลังชีวิตเพิ่มขึ้น 30%
ค่าสถานะทุกชนิด +10
ทักษะของเชฟ แดนเซอร์ และบาร์ดจะสูงขึ้น 1 เลเวล
ผลลัพธ์จากรูปสลักอื่นจะไม่ซ้อนทับ
จำนวนของผลงานแสงจันทร์ระดับมาสเตอร์พีช : 1
 - ทักษะแกะสลักพัฒนาขึ้น
 - ทักษะงานฝีมือเลื่อนถึงขั้นสูงเลเวล 4  ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้มือทั้งหมดขึ้น 8% และส่งผลลัพธ์ที่หลากหลาย
 - ความเข้าใจในงานประติมากรรมเพิ่มขึ้น 1 เลเวล
 - ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 110
 - ค่าสถานะศิลปะเพิ่มขึ้น 5
 - ค่าความอึดเพิ่มขึ้น 1
 - ด้วยการสร้างผลงานแสงจันทร์ระดับมาสเตอร์พีช ค่าสถานะทุกชนิดเพิ่ม 2
“คุคุคุคุคุ!”
วีดยิ้มอย่างชั่วร้าย
ทักษะงานฝีมือขั้นสูงเลเวล 4!
ทุกครั้งที่ทักษะนี้พัฒนาขึ้น พลังโจมตีของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก 8% และชิ้นงานฝีมือที่เขาสร้างขึ้นก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
สายอาชีพแกะสลักนั้นมหัศจรรย์ก็เพราะความสามารถในการเรียนงานฝีมือทุกชนิดและสามารถเข้าถึงทักษะงานฝีมือได้ เช่นเดียวกับอัตราการพัฒนาที่รวดเร็วขึ้น 2 เท่าสำหรับทักษะต่างๆ
มันคือความหวังในโรยัลโร้ด สำหรับสายอาชีพที่ต่ำกว่ามาตรฐาน

ทักษะที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามทางกายที่แท้จริง!
ทักษะงานฝีมือ!
เขาได้เรียนรู้ความจริงมาไม่นานนี้
ทักษะงานฝีมือนั้นช่วยให้พัฒนาทักษะแกะสลักได้ไวขึ้น อีกทั้งยังมีทักษะอื่นๆ ที่ได้รับผลลัพธ์จากทักษะนี้
มันช่วยบู๊สการใช้ทักษะสายผลิตทั้งหมดให้สามารถใช้ได้อย่างประณีตขึ้น อย่างเช่นการเก็บสมุนไพร  มันทำให้การเย็บปักละเอียดละออมากขึ้นและยังช่วยฟื้นฟูความคงทนของไอเท็มที่ถูกซ่อมแซม
แม้กระทั่งนักเวทย์ก็จำเป็นต้องมีทักษะงานฝีมือบ้าง
การพัฒนาทักษะงานฝีมือนั้นจะอาศัยแค่เพียงการทำแต่สิ่งเดียวซ้ำๆ และพุ่งไปที่ทักษะๆ เดียวไม่ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ทักษะที่หลากหลายในการฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะงานฝีมือ
พูดง่ายๆก็  งานกรรมการที่ไม่จบไม่สิ้นนั่นเอง!
มันเป็นศูนย์รวมของการใช้แรงกายในทุกๆ ทักษะ

ทุกครั้งที่ทักษะนี้เลเวลเพิ่ม  วีดก็อดไม่ได้ที่ต้องยิ้มออกมา
“ทักษะงานฝีมือเลเวลเพิ่มล่ะ เฮะเฮะ  เราต้องพยายามให้มากขึ้นแล้วลองสร้างรูปสลักแห่งแสงอื่นๆ ดูหน่อยแล้ว”
วีดมองไปรอบๆ เพื่อดูว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ จากนั้นเขาก็เริ่มออกเต้นเห่ยๆ ไปรอบๆ พร้อมกับถือมีดแกะสลักที่ผ่านการใช้ทักษะสลักแสงจันทร์
 “รู้สึกยังกับถูกหวยหลังเจอเรื่องแย่ๆ เลยแฮะ  แม้จะเจอเรื่องไม่ดีก็ไม่ได้หมายความว่าจะสนุกบ้างไม่ได้เนอะ”
ง่ายๆ สบายๆ! บางครั้งเขาก็แสดงออกถึงความดีอกดีใจราวกับคนบ้า  มันเป็นการปลอบใจตนเองอย่างหนึ่งของเขา หลังจากที่ต้องทำสิ่งเดิมซ้ำๆ อย่างไม่หยุดหย่อน
 “ทำงานหนักตั้ง 204 ชั่วโมง แต่สุดท้ายก็ออกมามีตำหนิแฮะ”
เขาไม่ได้หลับไม่ได้นอนดีเท่าไหร่ และนั่นส่งผลกระทบต่อชิ้นงาน
 “ถ้าเดือนนี้เราทำงาน 6,000 ชั่วโมง  เป้าหมายเดือนหน้าก็ควรจะเป็น 6,001 ชั่วโมง นั่นล่ะถึงจะหมายความว่าเราได้เพียรพยายามทำงานอย่างหนักแล้ว”
ถ้างานเย็บลูกตาให้ตุ๊กตาเด็กเล่น   ทำเงินให้เขาได้เยอะล่ะก็  เขาคงยอมทำมันไปตลอด 100 ปี!

อย่างไรก็ตาม ด้วยความเพียรพยายามจึงทำให้ผลงานนี้สำเร็จออกมาได้
แม้วีดจะทุ่มเทให้กับงานแกะสลักของตน แต่ความผิดพลาดเล็กน้อยบางอย่างก็เกิดขึ้นได้อยู่ดี

“ยังมีเวลาเหลือ”
วีดเดินเข้าหากองหินต่อไปโดยไม่หยุดพัก
เขาต้องไปโทเดียม แต่ยังพอมีเวลาเหลือนิดหน่อย
วีดแกะสลักหินในภูเขา ตลอด 6 วันถัดไปของทวีปเวอร์เซลล์   เขาสามารถสร้างรูปสลักระดับคลาสสิกเป็นจำนวนมาก   ระดับผลงานอันยิ่งใหญ่ 4 ชิ้น และ ระดับมาสเตอร์พีช 1 ชิ้น  ซึ่งนั่นทำให้เขาพัฒนาทักษะแกะสลักไปถึงขั้นสูง
***

มีผู้เล่นจำนวนมากเดินทางมาถึงเมืองโมราต้า
พวกเขาเคยอยู่ให้ห่างจากสถานที่นี้เพราะสภาพอากาศที่เลวร้าย  แต่ตอนนี้มันบรรเทาลงแล้ว
ด้วยเหตุที่สภาพอากาศนั้นกลับมาสดชื่นมีชีวิตชีวา  จึงไม่ต้องประหลาดใจที่ทั้งนักผจญภัยและมอนสเตอร์จะเริ่มปรากฏตัว
 “หมู่บ้านล่ะ!”
“ดูจากแผนที่  นี่คือโมราต้า”
“เข้าไปดูกันเถอะ”

เมืองในแดนเหนือเกือบทั้งหมดนั้นเสียหายไปมาก  และจากการโจมตีของมอนสเตอร์ ทำให้การป้องกันทางสาธารณะก็ย่ำแย่  เมืองเกือบทั้งหมดถูกมอนสเตอร์บุกจนพรุน
แทนที่จะเรียกว่าหมู่บ้าน  มันดูเหมือนกับสถานที่ล่ามากกว่า
พวกมอนสเตอร์สามารถเดินเหยาะแหยะได้อย่างเสรี  มันฆ่าและกัดกินมนุษย์!
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ผมจะนำกลุ่มนะ ส่วนการรักษาผมมอบหน้าที่ให้คุณ”
“โอเค เราจะดูแลการรักษาเอง”
ปาร์ตี้กลุ่มห้าคน มุ่งเข้าหาหมู่บ้านอย่างระมัดระวัง
ปาร์ตี้นี้มีชื่อเสียงโด่งดังในทวีปเวอร์เซลล์
ด้านหลังพวกเขามีอีกผู้เล่น 300 คน
เหล่าผู้เล่นพยายามมุ่งสำรวจทวีปเหนือ  พวกเขาคิดว่าคงจะปลอดภัยขึ้นหากเข้าไปในเมือง
อย่างไรก็ตาม มันยังอยู่ในช่วงเช้ามืดและนั่นเป็นเวลาที่พวกมอนสเตอร์หนาแน่นที่สุด!
ปาร์ตี้เพิ่มความระมัดระวังขึ้นทุกครั้งที่พวกเขาเข้าสู่หมู่บ้าน

“ยินดีต้อนรับ!”
“ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านของพวกเรา”
ชาวโมราต้า เอ่ยทักทายนักผจญภัยอย่างพร้อมเพรียงกัน
 “โมราต้ามีเสื้อผ้าคงทนขายนะ”
“พวกเรายังขายชุดเกราะที่พลังป้องกันสูงและยังมีเสื้อผ้าสำหรับสตรีอีกด้วยล่ะ”

เหล่านักผจญภัยเดินไปรอบๆ ร้านค้าที่เป็นจุดเด่นของเมืองโมราต้า  พวกเขามองไปรอบๆ ผืนดินและต้นไม้  และมีคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ตรงนั้นมันอะไรเหรอ?”
สิ่งนี้ไม่ค่อยได้พบเห็นในหมู่บ้านตามปกติเท่าไหร่
และในไม่ช้าเหตุผลก็ปรากฏขึ้น
เหล่านักผจญภัย   เห็นเด็กชายหญิงน่ารักต่างถือของแกะสลักสวยงามหลากหลายชิ้น!
“ขายรูปสลักดอกไม้  กระต่าย กวาง  ผลงานคุณภาพเยี่ยมทั้งนั้น!  แล้วยังมีรูปสลักมอนสเตอร์จากโมราต้าอย่างหมาป่าด้วยน้า”
ดูเหมือนว่าจะเป็นชาวบ้านที่พยายามขายของหาเงิน  พวกเขาพยายามหารายได้เล็กๆน้อยๆ เหมือนวีดตอนเริ่มเล่นใหม่ๆ

จากนั้นพวกเขาก็เห็นวีดกำลังนั่งอยู่
“โบราณวัตถุจากอาณาจักรนิฟเฮล์มคร้าบ เสื้อผ้ากับเกราะเหล็กก็มีนะคร้าบบ! มีลวดลายเก่าแก่สวยงามมากเลยนะครับผ้ม!”
วีดสุมชุดเกราะและอาวุธไว้ข้างๆ
“ดาบอย่างดี! ผลงานของแบล็กสมิทระดับปรมาจารย์จากอาณาจักรโบราณ นิฟเฮล์ม!  รีบคว้าโอกาสนี้เร็วเข้า อย่าปล่อยให้หลุดมือไป  พรุ่งนี้ก็หาซื้อไม่ได้แล้วนะ!”
สมบัติของอาณาจักรนิฟเฮล์ม  หลังจากผ่านมายาวนาน อาวุธและชุดเกราะเสื่อมสภาพลงและตอนนี้ถูกขายเป็นโบราณวัตถุ
 “หนุ่มๆ เอาเสื้อผ้าและดาบพวกนี้ไปโชว์สาวๆที่คุณชอบได้เลย   สาวๆ รู้เปล่าว่าเสื้อชุดนี้เคยสวมใส่ในงานเต้นรำโดยเจ้าหญิงลำดับที่ 3 ของอดีตลอร์ดแห่งเมืองโมราต้า ซึ่งตอนนั้นเธอก็ถูกขอแต่งงานด้วย ลองคิดดูสิถ้า.....”
วีดสร้างเรื่องราวให้ไอเท็ม

“ชายคนนี้เป็นใคร?”
“พ่อค้าเหรอ?”
“ไปดูกัน”
พวกนักผจญภัยรู้สึกสนใจในเมืองโมราต้า
พวกเขาต่างประหลาดใจกับคุณภาพที่ดีอย่างคาดไม่ถึงของกองอาวุธและชุดเกราะขึ้นสนิม
“นี่อะไรเหรอ”
“พลังโจมตีของดาบยาวขึ้นสนิมนี้โอเคเลยนะ   ตอนมันยังดีจะขนาดไหนกันเนี่ย?”
“ดาบเล่มนั้น!”
“ฉันชอบเสื้อตัวนั้นจัง”
ผู้เล่นต่างมามุงดูกัน
หลังจากได้ยินและได้เห็นคุณภาพที่ไม่น่าเชื่อของไอเท็มเหล่านั้น
“คุณลุง เสื้อตัวนี้เท่าไหร่คะ?”
วีดยิ้มอย่างสว่างไสว เมื่อตอบกลับไป
รอยยิ้มเสแสร้งจอมปลอม!
“3,600เหรียญทองครับผม”
“เอ๋!  ฉันซื้อเสื้อจากทวีปกลางก็แค่ 3,200 เหรียญทองเองนะ...แถมเสื้อนี่ยังเก่ามากด้วย”

บางคนลังเลที่จะซื้อ หลังจากได้ยินราคา
ประสิทธิภาพนั้นดีอยู่ แค่ราคาโอเว่อร์มาก!
เนื่องจากอุปกรณ์สวมใส่นี้เก่ามาก ดังนั้นความคงทนจึงลดต่ำเหลือแค่ 20%
วีดหยิบชุดขึ้นมา
“ดูเหมือนว่าผมยังไม่ได้ซ่อมมันนะ ซ่อมแซม  ขัดให้ขึ้นเงา  รีดให้เรียบ!
ซ่อมแซมชุดที่เก่าเก็บ!
ด้วยการใช้ทักษะตัดเย็บและทักษะแบล็กสมิท  เขาสามารถฟื้นคืนสถานะเดิมของพวกมันได้ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อมแซมอย่างสมบูรณ์  เมื่อเวลาผ่านไปผลลัพธ์จากการขัดเงาก็จะหายไป  การซ่อมแซมทำให้ความคงทนของสมบัติแห่งอาณาจักรนิฟเฮล์มกลับมาเท่ากับไอเท็มทั่วไป แต่มันยังมีอย่างอื่นมากกว่านั้น กล่าวคือจากของเก่าๆ ที่ไม่ได้ซ่อมแซมเป็นเวลานาน เมื่อถูกซ่อมแซมทำให้ความคงทนฟื้นคืนกลับมาและการเปลี่ยนแปลงของรูปลักษณ์ก็ทำให้มันดูน่าประทับใจ
 “ลดราคาลงให้อีกนิดนะคะ”
“คุณก็รู้ว่าชุดนี้มันเก่ามาก”
ลูกค้าคอมเพลนพร้อมกับพยายามเอาชนะวีดในสงครามราคา

วีดนั้นยังใช้ประโยชน์จากการแกะสลัก
มีรูปสลักของหญิงสาวผู้งดงามซึ่งซาฮัปรักมาตลอดชีวิตของเขา
เช่นเดียวกับจักรพรรดิเกอิฮา อาเพน ซึ่งรวมรวบทวีปเป็นปึกแผ่น ขายผู้ขายอาหารไปพร้อมกับไอเท็มต่างๆ
 “สไตล์เก่าๆ เป็นที่นิยมในแฟชั่นสมัยนี้นะครับ  เอาเถอะ ตอนนี้ผมอารมณ์ดี ดังนั้นผมจะสลักสิ่งที่คุณชอบให้”
สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าของไอเท็ม
 ผลลัพธ์จากอุปกรณ์สวมใส่นั้นไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่ผู้เล่นมุ่งหวัง  ไม่ว่าผลลัพธ์จะดียังไง  พวกเขาก็ยังต้องการให้ดูดีอีกด้วย
การแกะสลักอย่างดีในอุปกรณ์สวมใส่จะช่วยเพิ่มสถานะให้มันเล็กน้อย

 “เร่เข้ามา! เร่เข้ามา!  ถูกมาก! ถูกที่สุดด!  เฉลิมฉลองการได้เข้ามาในโมราต้าด้วยเซ็ตเครื่องสวมใส่ชุดใหม่เลยพวก!  หาอุปกรณ์แบบนี้ที่อื่นไม่ได้แล้วนอกจากในโมราต้านี้ โอกาสแบบนี้ไม่มีอีกแล้วนะคร้าบบ!
ขณะที่กล่าวโฆษณา  ทั้งปากทั้งมือของวีด ต่างขยับไม่หยุดหย่อน
 “เธอคิดว่าไง?”
“คุณภาพก็ไม่เลวนะ จะหาของแบบนี้ในร้านค้าคงยากอยู่”
“มันดูเบาสบายและก็สวมใส่สะดวกนะ”
วีดนั่งคิดไปเรื่อยว่าจะมีคนมากเท่าไหร่มาซื้อของ
“คุณลูกค้าควรซื้อตอนนี้เลยนะคร้าบ! สินค้ามีจำนวนจำกัด  ถ้าไม่รีบล่ะก็มันจะหมดเอานะ!”
เมื่อของมีจำกัด ราคาย่อมเพิ่มขึ้น
วีดขายอุปกรณ์สวมใส่ได้อย่างงาม จากนั้นเวลาที่เหลือเขาก็ขายอาหารของอาณาจักรนิฟเฮล์ม
 .
.
.
เหล่านักผจญภัยในเมืองโมราต้า!
พวกเขาสวมใส่ชุดเกราะและอาวุธที่มีลวดลายคล้ายๆ กัน
เสื้อผ้าและชุดเกราะหลากสีที่เก่าแก่และดูสกปรก!
น่าสงสัยว่าดาบที่มีรอยร้าวนั่นจะสามารถตัดต้นไม้ได้หรือไม่
แต่พวกนักผจญภัยต่างก็พออกพอใจ
 “ผมว่ากับเครื่องสวมใส่ที่ดีแบบนี้ ราคานั้นก็สมเหตุสมผลนะ”
“ใช่ ดีมากเลยทีเดียว แม้ความคงทนจะต่ำไปนิด”
“เราคงต้องซ่อมมันบ่อยขึ้นนิดหน่อย”

หลังจากที่วีดซ่อมเครื่องสวมใส่และใช้สกิลทำให้ความคงทนและพลังป้องกันของมันเพิ่มขึ้นชั่วคราวแล้ว  วีดผู้ชั่วช้าก็หลอกขายเครื่องสวมใส่ที่ความคงทนต่ำพวกนั้นไป
แน่นอนว่าเขาขายในราคาแพงกว่าชุดเกราะที่วางขายในร้านนิดหน่อย
พวกนักผจญภัยเหลือเงินติดตัวไม่มากแล้ว
 “กระเป๋าเกลี้ยงเลยอะ”
“งั้นไปออกล่ากันเถอะ”
“ไปลองหาภารกิจทำกันเถอะ”
เหล่านักผจญภัยต่างแยกย้ายกันไปคุยกับชาวบ้าน
พวกเขาไม่ทราบแน่ชัดว่ามีหรือไม่มีอันตรายอยู่นอกเมือง  ดังนั้นจึงมองหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เก็บเลเวลรอบๆ นี้
ถ้าคุณเพิ่มระดับความสนิทสนมกับชาวบ้านในท้องถิ่นให้มากขึ้น  คุณก็จะได้รับภารกิจดีๆ และอาจจะพบเงื่อนงำเกี่ยวกับดันเจี้ยน
และช่างโชคดีที่พวกชาวบ้านนั้นให้ความเมตตาต่อนักผจญภัยมาก
“หลังหมู่บ้านจะมีปราสาทดำของท่านลอร์ดตั้งอยู่ ทุกๆปี จะมีพวกมอนสเตอร์จะมารวมกันแถวนั้น
 “เจ้ารู้ไหม? ด้านตะวันออกของหมู่บ้านมีแม่น้ำที่เกิดขึ้นจากการละลายของหิมะและน้ำแข็ง   ข่าวลือเล่าว่าถ้าเจ้าลงอาบน้ำในแม่น้ำนั่น เสน่ห์จะเพิ่มขึ้นล่ะ”
 “สถานที่ล่าเหรอ?  เหนือใต้ออกตก ไม่ว่าเจ้าจะไปทางไหนก็จะพบมอนสเตอร์เต็มไปหมดนั่นละ!  อาณาจักรนิฟเฮล์มโบราณน่ะเต็มไปด้วยพวกมอนสเตอร์!  เจ้าช่วยไปล่าพวกมันแล้วเก็บหนังมาให้ข้าทำเป็นเครื่องหนังได้ไหม?”
“ในภูเขาด้านตะวันออกเฉียงเหนือของที่นี่มีกลุ่มโจรชื่อดังอยู่  พวกมันเริ่มออกปฏิบัติการอีกแล้ว  แถวนั้นเป็นทางที่คาราวานขนสินค้าจะผ่านด้วย  อย่างไรก็ตามบางทีก็จะมีมอนสเตอร์ออกมาด้วย   คงจะดีถ้าเจ้าไปร่วมกับพวกเขาและเก็บกวาดซ่องโจรนั่น”
ภารกิจซึ่งเกี่ยวกับจุดเด่นของของเมืองโมราต้าอย่างเสื้อผ้าและเครื่องหนังก็ปรากฏเช่นกัน  พวกนักผจญภัยสามารถเปลี่ยนข้าวของเป็นเงินได้อย่างง่ายๆ

ชาวบ้านบางคนเอ่ยขึ้น
“เจ้าเคยไปที่ภูเขาด้านตะวันออกของหมู่บ้านไหม? ที่นั่นมีรูปสลักชั้นยอดที่พวกเรารู้สึกภูมิใจมากเต็มไปหมด”
 “รูปสลัก?”
“เจ้าช่วยข้าทีได้ไหม?  สามีของข้าออกไปดูมันตอนกลางคืน  ข้าได้ยินว่าที่นั่นตอนกลางคืนค่อนข้างอันตราย”
พวกนักผจญภัยต่างรู้สึกสงสัย
“มีชาวบ้านคนไหนอีกที่เรายังไม่ได้ไปพูดด้วย?”
“พวกเราลองไปดูกันไหม?”

เหล่านักผจญภัยเดินทางไปยังภูเขาหินที่พวกเขาได้ยินจากชาวบ้าน
บนภูเขานั้นมีกองหินเต็มไปหมด
และพวกเขาต้องประหลาดใจเมื่อได้เห็นหินถูกแกะสลัก
มีหินสลักอยู่เต็มไปหมด
มันเป็นรูปสลักของชาวบ้านที่กำลังรื่นเริงในงานเทศกาล!
รูปสลักหลายตัวเหมือนพาลาดีนของวิหารแห่งเฟรย่าในทวีปเวอร์เซลล์
รูปสลักถูกสร้างขึ้นไปตามแนวระดับของภูเขา และไล่เรียงนำไปจนถึงยอดเขา

คุณได้เห็น  สัญลักษณ์แห่งเมืองโมราต้า
หอคอยที่สร้างขึ้นเพื่อความเจริญก้าวหน้าและอยู่ดีกินดีของเมืองนี้! ประติมากรชั้นยอดผู้เปี่ยมไปด้วยฝีมือสร้างมันขึ้นด้วยความพยายามสุดหัวใจ และนั่นทำให้คุณค่าทางศิลป์ของมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก
-พลังชีวิตและมานาเพิ่มขึ้น 10%
-ผลิตผลของเมืองเพิ่มขึ้น 3%
-มอนสเตอร์จะลดความดุร้ายลงในพื้นที่รอบๆ รูปสลัก


คุณได้เห็น  นักรบแห่งโมราต้า
นักรบผู้เข้มแข็งและทนทรหด!    รูปลักษณ์ของนักรบแห่งทวีปเวอร์เซลล์นี้เพียงพอจะทำให้คุณหาญกล้าเข้าต่อสู้กับมอนสเตอร์
-ความอึดและพลังกายเพิ่มขึ้น 3%
-มอนสเตอร์จะไม่บังเกิดจิตวิญญาณนักสู้
-มีโอกาสได้รับชื่อเสียงเมื่อคุณสามารถล้มมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งได้

ผลลัพธ์ของรูปสลักที่หลากหลาย!
รูปสลักบนภูเขานี้มีประโยชน์ต่อการล่าอย่างมาก
พวกนักผจญภัยต่างประหลาดใจ
“ทำไมแถวนี้ถึงมีรูปสลักเยอะขนาดนี้?”
“นายคิดว่าใครสร้างพวกมันขึ้นมาอะ?”

พวกเขาเริ่มเกิดคำถาม
สิ่งก่อสร้างนั้นจะค่อยเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา  หรืออีกนัยหนึ่งคือ มันเป็นไปไม่ได้ที่รูปสลักพวกนี้จะเป็นสิ่งหลงเหลือจากอาณาจักรนิฟเฮล์มโบราณ
รูปสลักพวกนี้ยังดูใหม่เอี่ยม!
แสดงให้เห็นว่าประติมากรเพิ่งสรรค์สร้างมันขึ้นมาไม่นานนี้
 “วีดไง! ต้องเป็นวีดแน่ๆ!”
“ประติมากรวีดงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว งานยากลำบากแบบนี้จะมีใครทำได้นอกจากวีด?”
ในข่าวที่เล่าลือกันนั้น  วีดเป็นประติมากรที่มีชื่อเสียงที่สุด  เขาเป็นที่รู้จักในเรื่องความเพียรพยายามก่อสร้างพีระมิดในอาณาจักรโรเซ็นไฮม์

ในหมู่นักผจญภัยหลายคนต่างเคยได้ยินเรื่องของวีด
 “บางที อาจจะเป็นชายคนที่ขายไอเท็มให้เราก็ได้นะ”
“หลังจากสร้างรูปสลักในโรเซ็นไฮม์แล้ว  ตอนนี้เขาก็อยู่ที่นี่สินะ”
 “ที่เขาหายตัวไปถึง 6 เดือนนี่ นายคิดว่าเพราะกำลังสร้างรูปสลักที่นี่รึเปล่า?”
“เราคิดว่าเขาเป็นสมาชิกคณะสำรวจนะ”
“งั้นเหรอ  นายเห็นดาบกับชุดเกราะเขาไหม?”
 “แบบเดียวกันเด๊ะเลย”
มีข่าวลือว่าวีดใช้ทักษะงานช่างกับงานตัดเย็บระหว่างการสำรวจ
 “เขาเพิ่มทักษะงานช่างกับงานตัดเย็บงั้นเหรอ...”
“ทั้งสองอันนั่นมันยากมากเลยนะ...”
“ดูเหมือนเขาจะเป็นเทพแห่งการทำงานหนักนะ”
มีคนไม่เยอะที่ทนทรหดได้ขนาดนั้น

แต่พวกเขาก็ยังมีข้อสงสัย
 “แต่หมู่บ้านโมราต้านี่เป็นที่ที่เทพเจ้าสงครามวีดสู้กับแวมไพร์เลือดแท้นะ  เรามั่นใจว่านั่นเป็นภารกิจของเขา”
“ใช่”
“แล้วทำไมประติมากรวีดถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?  บังเอิญงั้นเหรอ?”
 “นายกำลังจะหมายความว่าไง?”
 “บางทีทั้งคู่อาจจะแค่ชื่อเหมือนกันหรือไม่ก็...”
นักผจญภัยคนอื่นต่างหัวเราะใส่คนที่พวกเขาคิดว่ากำลังมโนเป็นตุเป็นตะ
“นายคิดว่าเทพเจ้าสงครามวีดกับประติมากรวีดเป็นคนคนเดียวกันเหรอ  ตลกน่า  ลองไปหาเขาดูเองเลยเป็นไง?”
 “ลองคิดดูสิ มีคนชื่อวีดอยู่เยอะแยะไป”
“ประติมากรที่ไหนจะไปเรียนงานช่างกับงานตัดเย็บ ว่าไหม?”
“คงจะยุ่งน่าดูหากไปเรียนทักษะงานฝีมืออื่นๆ ด้วยอะ...”
 “จำก่อนหน้านี้ได้ไหม  ตอนภารกิจเนโครแมนเซอร์กับกองทัพอันเดดอะ  ตอนนั้นพวกเขาโชว์ชุดเกราะที่วีดใส่ด้วยนะ”
ผู้เล่นหลายคนไม่รู้ว่าเมื่อทักษะของแบล็กสมิทพัฒนาขึ้นมันจะช่วยลบข้อจำกัดเรื่องไอเท็มสวมใส่ได้  ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะมีคนที่มีระดับทักษะแบล็กสมิทถึงขั้นกลางอยู่น้อยนิด
การโต้เพียงอย่างรุนแรงเริ่มปรากฏออกมา
“หลังจากกำจัดแวมไพร์เลือดแท้ได้ วีดตอนนั้นมีอาชีพพาลาดีน  แต่เทพเจ้าสงครามวีดได้รับภารกิจพิเศษของเนโครแมนเซอร์ และเขาจึงเป็นออร์คคาริชิ   ดังนั้นพวกเขาไม่ทางเป็นคนคนเดียวกัน”
 “แถมไม่มีหลักฐานว่าท่านเทพเจ้าสงครามวีดอยู่ในหมู่บ้าน  เขาไม่มานั่งแกะสลักทั้งวี่ทั้งวันหรอก”
“อืม นายพูดถูก”
 “ใช่แล้ว ไม่มีทางที่สองคนนั้นจะเป็นคนๆเดียวกันหรอก”
ทุกๆ คนต่างมีข้อที่ตนเองสงสัย และพยายามพูดไปต่างๆ นาๆ

วีดที่ไม่ยอมเปลืองตังแม้แต่สักแดงเดียว!
เพราะการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ที่ CTS ออกอากาศนั้นทำให้หลายคนก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนๆ เดียวกันหรือไม่

“เทพเจ้าสงครามวีด!”
“เขามีบทบาทสำคัญในภารกิจกำจัดคลื่นความร้อนในทวีป”
“คณะสำรวจต้องผจญความยากลำบากมากมาย แต่ต้องขอบคุณวีดที่มันสำเร็จลงได้”
“ผู้กอบกู้ทวีปไว้...ไม่มีทางเป็นเขาแน่ ไม่มีทาง!”
 “เราพนันเลยว่าตอนนี้เขาอยู่ในดั้นเจี้ยนที่ไม่มีใครรู้จักและกำลังทำภารกิจหรือไม่ก็กำลังฆ่ามอนสเตอร์ที่ไม่มีใครฆ่าได้มาก่อน”
“วีดเหมือนเซียนเลยเนอะ  มักจะอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีใครไปหาเขาได้”
 “อืม ใช่แล้ว”
และนั่นก็กลายเป็นบทสนทนาทั่วไปของเหล่านักผจญภัย
ผู้คนที่สนับสนุนเทพเจ้าสงครามวีดไม่มีทางที่จินตนาการออกได้เลยว่าเขานั้นจะเป็นพ่อค้าผู้หิวกระหายเงิน
และพวกเขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด ซึ่งความเชื่อของพวกเขานั้นพอๆทกับการที่ ใครจะเชื่อว่าดารานักร้องสาวสวยกล้าพูดออกมาว่าเธอกำลังจะไปอึ!

กระนั้น พวกนักผจญภัยยังไม่ได้เห็นรูปสลักซึ่งสำคัญที่สุด

คุณได้เห็น    หอคอยแห่งแสง!
ผลงานอันยอดเยี่ยมที่สร้างโดยประติมากรผู้เชี่ยวชาญ บางครั้งประติมากรจะสร้างสรรค์งานที่ทำให้ทั้งทวีปถึงกับตะลึงงัน หอคอยอันยิ่งใหญ่นี้แสดงเอกลักษณ์ออกมาถึงขีดสุดในยามค่ำคืน
-พลังชีวิต มานา ความอึดฟื้นฟูเร็วขึ้น 25% ตลอดทั้งวัน
-ค่าสถานะเพิ่มขึ้นทุกอย่าง 15 แต้ม
-พลังชีวิตและมานาสูงสุดเพิ่มขึ้น 15%
-เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น 20%
-โชคเพิ่ม 100
-เพิ่มพลังให้เวทย์ธาตุและเวทย์ศักดิ์สิทธิ์
หอคอยนี้ลดพลังแห่งความมืดโดยรอบ มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งจะอ่อนแอลง
และเมื่อพระอาทิตย์ตก จะปรากฏแสงขึ้น
รูปสลักหอคอยแห่งแสงนี้เพิ่มค่าป้องกันเพิ่มขึ้น 50% จากค่าเดิม

เมื่อผู้คนได้สิ่งนี้ ต่างไม่มีใครออกล่า พวกเขานั่งลงและรอคอยอาทิตย์อัสดง
“แสงพวกนี้มันแสดงถึงอะไร?”
“รูปสลักแห่งแสง? มันมีอะไรอย่างนั้นด้วยเหรอ?”
“ยังไงก็เถอะ พวกมอนสเตอร์ตอนกลางคืนก็แข็งแกร่งขึ้น 50% อยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลให้เราต้องไปจากที่นี่นี่”
พวกเขาต่างนั่งลงรอบอย่างผ่อนคลายแล้วก็คุยกันเรื่อยเปื่อย
แล้วยามค่ำคืนก็มา
ช่างเป็นค่ำคืนที่มืดมิด
เมฆมากมายบนฟ้าจนไม่อาจเห็นจันทรา แต่ถึงอย่างนั้นหอคอยนี้ก็เปล่งแสงอันอบอุ่นออกมา
มันสาดประกายราวอัญมณี เป็นเหมือนแสงส่องทาง
“สวยจัง”
“ยังกับพวกเราอยู่ในความฝันเลย..”
“ฉันไม่รู้เลยว่ามันจะดีขนาดนี้”
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างไม่ชอบความคิดในประติมากรรม
“ก็นะเห็นว่า เรทติ้งมันสูง ฉันก็ว่ามันน่าจะดีแหละ”
“ฉันว่ามันเป็นรูปสลักที่โด่งดังน่าดูนะ แต่มันก็ยากที่จะบอกได้ว่ามันดีรึเปล่า”

สำหรับคนที่ไม่มีศิลปะในหัวใจ มันเป็นการยากที่เขาจะรู้สึกได้ถึงแรงบันดาลใจ
ต่อให้เป็นประติมากรระดับโลก ก็คงยังมีผู้คนที่ไม่เข้าใจว่ารูปสลักของเขาสื่ออะไร ทำไมมันถึงได้พิเศษ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้คนที่เข้าถึงหอคอยแห่งแสง
‘ช่างเป็นงานที่ลึกซึ้งอะไรแบบนี้’
‘โอ ช่างเป็นงานศิลป์ที่น่าประหลาดใจเหลือเกิน ใครกันที่รู้ถึงวิธีสร้างงานแบบนี้ได้...’
‘ประติมากรรมอะไรกันนี่ ถึงฉันจะเคยเห็นงานพวกนี้มาบ้างแต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่... บางทีถ้าจะไปออกเดทในงานแสดงประติกรรมซักครั้งมันก็คงไม่เลวนะ’
‘ทำไมมันถึงได้แตกต่างกับงานชิ้นอื่นระหว่างทางนัก?’
หอคอยแห่งแสง
ช่างดูทึมๆ น่าขนลุก ใต้แสงจันทราจาง ๆ นี้มี7เฉดสีสาดประกายเบาบางจนแทบจะมองผ่าน
แต่ทันใดนั้นที่เมฆเหนือโมราต้าได้แยกออก แสงจันทร์ที่สาดลงมายังพื้นผิวหอคอยก็กระจายออก ทุกคนรอบ ๆ หอคอยต่างอาบในแสงจันทร์
“โอ!”
เสียงแห่งความประหลาดใจดังออกมาจากปากผู้ชม หอคอยนั้นรวมแสงไว้ที่ศูนย์กลาง และกระจายมันออกไปหอคอยเล็ก ๆ เป็นแสงที่หลากหลาย
แสงที่แรงกล้า!
แสงสะท้อนจากหอคอยเล็กกลับมายังหอคอยศูนย์กลาง
การสะท้อนของแสง!
หอคอยเล็ก ๆ กระจายแสงออกไปในมุมต่าง ๆ
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและบิดผัน แสงมากมายมองเห็นได้บนแผ่นฟ้า
มันกระจายออกไปเหมือนกันว่าแสงนั้นเกิดจากหอคอยแห่งนี้
ปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขา!
และเหมือนกันจะเปิดเผยให้เห็นถึงแสงที่สว่างจากรูปสลัก
แสงเริงระบำ
ทุกครั้งที่เมฆเคลื่อนจันทราคล้อยแสงจะเริงระบำ
แสงที่เริงระบำนี้ไม่อาจจะบรรยายเป็นคำพูดได้
ช่างเป็นฉากที่ตระการตานัก
โดยปกติแล้วรูปสลักจะแสดงให้เห็นแค่รูปภายนอกโดยตรงแต่รูปสลักแห่งแสงนี่ต่างออกไป มันไม่ได้แสดงรูปลักษณ์โดยตรงแต่เป็นตัวของแสงเองตะหาก
งานศิลป์ที่มองเห็นได้แต่ไม่อาจสัมผัส
***

ประติมากรผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งได้สร้างหอคอยแห่งแสงขึ้นมา!
“โมราต้ามีรูปสลักเจ๋ง ๆ เพียบเลยล่ะ”
“หอคอยแห่งแสงน่ะเป็นชิ้นงานที่แสดงแสงอันสวยงาม! ใครที่ได้เห็นก็ต้องหลงใหลอย่างช่วยไม่ได้เลยล่ะ”
“แสงนั่นน่าประทับใจสุด ๆ”
“มันเป็นภาพที่สวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลยล่ะ”
“ถ้านายจะไปดันเจี้ยนล่ะก็นายจะต้องเสียใจแน่ที่ไม่ได้มาเห็นหอคอยนี้”
มันไม่ได้ใช้เวลานานเลยที่ข่าวลือจะกระจายไปทั่วทวีปเวอร์เซลล์ มันยิ่งทำให้ชื่อเสียงของวีดก้าวไกล วีดที่ทำงานเพื่อปวงชนในกาลก่อนและมีชื่อในงานประติมากรรม [tlnote:ข่าวลือจริง ๆ บิดเบือนมาก]
เหล่าคนที่ประทับใจต่างบอกต่อ
วีดีโอถูกอัพลงในเว็บรอยัลโร้ดเกี่ยวกับหอคอยแห่งแสงเพื่อให้ผู้เล่นได้ดูและพูดคุยถึงเรื่องนี้
ผู้เล่นเริ่มชื่นชมในอาชีพสายประดิษฐ์
“ประติมากรที่แท้จริงก็คือวีด”
“รูปสลักของเขาปรากฏไปทั่วทุกที่ มันคงเป็นการสร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้ต่อเนื่อง”
“ฉันได้ยินมาว่าเขาสลักรูปของผู้หญิงที่สวยงามได้ดีมากเลยล่ะ”
“เขาสร้างงานศิลป์ที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงเสมอ”

บาร์ดเองก็ร้องเพลงสรรเสริญวีด
ประติมากรวีด
ประกอบอาชีพที่ยากลำบาก แต่เขาก็ข้ามผ่านความอนาถา
วิญญาณแห่งประติมากรรม ประติมากรรมที่ควบคุมแสง
โอ ช่างงดงาม
เขามอบทุกสิ่งที่สรรสร้างไว้ข้างหลัง
ดั่งเช่นเหล่าเอลฟ์ แฟรี่ร้องเพลงเต้นรำในที่แห่งนั้น
ที่ซึ่งเป็นตำนวนว่าเหล่าแสงต่างมารวมตัวกัน
***

แม้ผู้คนมากมายต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นหอคอยแห่งแสง
แต่เหล่าผู้คนที่รู้จักวีดนั้นต่างพบว่านี่มันยากที่จะเชื่อ
“พี่เขามีเซนส์เกี่ยวกับอะไรที่สวยงามได้ขนาดนั้นเลยเหรอ...”
ยูรินสงสัยจนต้องเอ่ยปากถามฮวารยอง
“วีดเขามีมือที่คล่องแคล่วใช่ไหมล่ะ?”
“ใช่ค่ะ หนูชอบกินแอ๊ปเปิ้ลที่พี่ปอกให้”
“ผมล่ะงงจริง ๆ ว่าเขาสร้างมันได้ยังไง”
เพลตกอยู่ในสภาพไร้คำพูด
‘บางทีพวกเราอาจจะคิดผิดเกี่ยวกับวีดมาตลอด?’

พวกเขาอยากพบวีด ศิลปินมักถูกเข้าใจผิดเสมอ สำหรับ เซนส์ด้านความงดงาม

‘วีด ฉันรักรูปสลักที่เธอสร้างมากเลย ถ้าหากไม่มีความรักและศรัทธาอันแรงกล้าในงานประติมากรรมแล้วคงไม่มีทางที่เธอจะสร้างงานที่สวยงามขนาดนี้ออกมาได้แน่’
ไอรีนกล่าวขอโทษวีดทั้งน้ำตา

‘วีดน่ะคอยแต่จะพูดว่าไม่ชอบอาชีพตัวเองยังไง ฉันคิดว่าในอนาคตคำบ่นเรื่องนี้ที่ฉันจะได้ฟังคงมีแต่เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้น’
เซเฟอร์ยิ้ม

‘วีดน่ะเป็นคนที่ไม่ค่อยจะภูมิใจกับอะไรง่าย ๆ บางทีนี่อาจจะเป็นความสำเร็จที่ดีพอจะทำให้เขาภูมิใจได้ ใช่ไหมนะ?’
ฮวารยองเข้าใจวีดผิดไปแบบกู่ไม่กลับ

‘การสร้างงานศิลป์ใหม่ ๆ นั้นต้องใช้ความพยายามแสนสาหัสและความชอบ ไปจนถึงอารมณ์ความรู้สึกมากมาย
วีดเป็นคนที่ทำให้หัวใจของคุณอบอุ่นได้ล่ะ’

***

ตอนที่วีดสร้างหอคอยนั้นเขาไม่ได้รู้อะไรเลยและกะจะสร้างแค่หอคอยธรรมดา ๆ เท่านั้น
สลักแสงจันทร์!
มันทำให้งานแกะสลักยากขึ้นไปเป็นคนละระดับ
งานประติมากรรมที่ส่องแสงออกมาจากตัวชิ้นงานได้นั้นเป็นการยากที่จะมีไอเดียสร้างมัน
“แม่งเอ๊ย ทำไมคำสาปของงานประติมากรรมมันถึงไม่สิ้นสุดซะทีฟะ”
วีดหงุดหงิดกับอาชีพที่ล่ามเขาไว้นี้
เขาสามารถใช้สลักแสงจันทร์สร้างรูปสลักเล็ก ๆ ได้ในระดับนึง แต่เมื่อเป็นชิ้นงานขนาดใหญ่เขาต้องคิดถึงสิ่งอื่นเพิ่มเติมเข้า
“งานแกะสลักที่น่าสาปแช่งนี่แม่ง!”

วีดต้องทนอดอดทนห้อยตัวลงมาจากยอดแล้วก็แกะหิน
เขาแกว่งตัวห้อยไปอยู่เหนือพื้นพร้อมๆ  กับแกะสลัก
ในตอนที่เขาฟาดหิมะด้วยสลักแสงจันทร์ น้ำตาก็ไหลลงมาตามใบหน้าของวีด
ใช่แล้ว ท่ามกลางแสงอาทิตย์การสลักแสงจะมีผลน้อยลงมาก เมื่อยามค่ำมาถึง
หมู่บ้านโมราต้ามีจันทร์เต็มดวง
พระจันทร์ทอแสงลงบนรูปสลักอย่างลดเลี้ยว พื้นผิวที่เหมือนกระจกของหินทำให้แสงจันทร์สะท้อนออกไป
“แสงมันสะท้อนจากรูปสลักไปบนหิมะ!”
วีดหงุดหงิดโมโหในขณะที่อยู่บนเขา เขาใช้เวลานานนับชั่วโมงพยายามจัดตำแหน่งของแสงจันทร์ให้ถูกต้อง แล้วเขาก็ค่อย ๆ ฟันตัดรูปสลักจากมุมอื่นเพิ่มเติม
เล่ม 10 ตอนที่ 8 จบ



<a href='https://ads.dek-d.com/adserver/adclick.php?n=a6753880' target='_blank'><img src='https://ads.dek-d.com/adserver/adview.php?what=zone:696&amp;n=a6753880' border='0' alt=''></a>

1 ความคิดเห็น: