วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เล่มที่ 2 ตอนที่ 1 ดินแดนแห่งเทพนิยาย (Land of the Myth)

เล่มที่ 2 ตอนที่ 1 ดินแดนแห่งเทพนิยาย (Land of the Myth)



ผู้อาวุโสแห่งหมู่บ้าน บารัน , แกนดิลวา กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
หมู่บ้าน บารัน ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตด้านใต้ของอาณาจักรโรเซนไฮม์  , ที่อยู่อาศัยของกว่าห้าร้อยครอบครัวนี้ ครั้งหนึ่งเคยมีแต่ความสงบสุข  จนกระทั่งถูกพวกลิซาร์ดแมนรุกรานเข้ามา
ชาวบ้านต่างหลบหนีกันจ้าละหวั่น ในขณะที่หนุ่มสาวจำนวนหนึ่งก็ถูกพวกมันจับตัวไป
.
.
.
"ผมอยากรู้ว่า เมล็ดนี้ท่านได้มาจากไหน" วีด กล่าวออกมา
ดวงตาอันมืดมัวของ แกนดิลวา เริ่มมองเห็นแสงแห่งความหวัง
"นายท่านจะช่วยข้าได้หรือไม่  ถ้าข้าบอกสิ่งที่ข้ารู้ให้ท่านฟังแล้ว ?"
"ได้โปรดอย่าพูดเช่นนั้นเลยครับ  ไม่ว่าคุณจะบอกหรือไม่ ผมก็ช่วยคนของคุณแน่นอน ชายหนุ่มอย่างผมจะอยู่เฉยได้อย่างไร ในขณะที่คนบริสุทธิ์ต้องถูกมอนสเตอร์ชั่วร้านลักพาตัวไป?"
"โอ.....!."
แกนดิลวา  รู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมาก
ในขณะที่คนอื่นๆ ต่างเมินเฉยกับคำขอร้องของเขา แต่ที่นี่ ขณะนี้  มีผู้มีเมตตาที่ยอมชักดาบเพื่อช่วยเหลือเขาแล้ว
"ท่าน ดาริอุส ปฏิเสธคำขอของข้า...เพราะข้าตอบแทนได้เพียงแค่เมล็ดพืชนี้เท่านั้น" แกนดิลวา บอกออกมา
จริงอยู่ที่ว่า ดาริอุส จะจากไปไกลจนยากจะได้ยินเสียงสนทนาของพวกเขาแล้ว  แต่ วีด ก็ยังกล่าวอย่างระมัดระวัง
"ช่างเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบอะไรเช่นนี้"
"โอ...โลกนี้ยังไม่สิ้นคนดี"
วีด เหลือบไปมองกำมือของ แกนดิลวา อย่างไม่ตั้งใจ
"ว่าแต่ว่า เมล็ดนี้คืออะไรรึครับ?"
" นี่รึ จริงๆแล้วข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามาจากต้นอะไร"
"คุณก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหนงั้นเหรอ?"
"เมล็ดนี้ ถูกส่งทอดจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลข้า
บรรพบุรุษบอกให้ข้ารักษามันไว้อย่างดี เพราะมันเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้ และข้าปฏิญาณว่าจะมอบมันให้แก่ นักรบที่เหมาะสมเพื่อเป็นการตอบแทนสำหรับการช่วยเหลือ"

ราวกับเป็นชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่มาต่อกันทีละชิ้นๆ  แต่มันก็ยังคง มีความเป็นไปได้ 50-50
เมล็ดนี้จะนำทาง วีด ไปสู่ นครลอยฟ้า หรือจะเป็นแค่เมล็ดของพืชไร้ชื่อธรรมดา?
ท่ามกลางหลากหลายอาชีพจำนวนมากมาย นั้น
มีอาชีพชาวสวนและชาวนาก็จริง  แต่ว่ามันน้อยนิดเกินกว่าที่จะพบได้ง่ายๆ
"นายท่านจะช่วยเหลือคนของข้าหรือไม่?"
*ติ๊ง*

The Calamity of Baran Village
หายนะของหมู่บ้าน บารัน
บารัน เป็นหมู่บ้านที่มีชีวิตชีวาและมีแต่ความสงบสุข จนกระทั่งเขตแดนทางทิศตะวันออกถูกทำลายโดยมอนสเตอร์ที่น่าเกลียดน่ากลัว
เมื่อลิซาร์ดแมนบุกมาถึงหมู่บ้าน  ผู้อาวุโสแห่งหมู่บ้าน, แกนดิลวา ไม่มีเวลาพอที่จะช่วยคนของเขาได้ทุกคน  เขาทำได้เพียงพาเด็กๆหนีออกมา  คนหนุ่มสาวตัดสินใจอยู่ที่หมู่บ้านเพื่อยื้อเวลาไว้
ลิซาร์ดแมนที่โหดเหี้ยม จับพวกเขาไปแทนที่จะฆ่า และขังไว้เป็นทาสที่แหล่งอาศัยของพวกมัน
ณ  หุบเขาด้านตะวันตก
จงช่วยเหลือพ่อแม่ของเด็กๆออกมา
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ โอกาสรอดของพวกเขาก็จะน้อยลง เพราะลิซาร์ดแมนจะไม่ลังเลที่จะฆ่าชาวบ้านไปทีละคนทีละคน

Difficulty Level : D
(ระดับความยาก  : D)
Reward : A Nameless Seed
(รางวัล : เมล็ดพืชไร้ชื่อ)
Number of Captives : 55
(จำนวนของผู้ที่ถูกจับไป : 55)


ความยากของภารกิจนี้คือ D
ซึ่งมันเท่ากับระดับความยากของ ภารกิจกองกำลังกวาดล้าง
จริงๆแล้ว วีด  ก็มีภารกิจระดับ A อยู่ ซึ่งก็คือ ภารกิจสานต่อเจตจำนงแห่ง ซาฮัป
แต่มันยังยากเกินกว่าที่เขาจะทำได้ ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจ เพราะมันกินพื้นที่ช่องภารกิจของเขาไป
.
.
.
.
.
ภารกิจนี้ยากกว่าภารกิจอื่นๆที่ วีด เคยทำมา
แต่ เมื่อเขาอ่านคำอธิบายภารกิจซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยข้ามระดับความยากไป สิ่งที่สะกิดใจเขาคือ
ความทุกข์ของพ่อแม่
ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแม่ของ วีด นั่นจบลงเมื่อตอนเขาอายุแปดขวบ  สิ่งที่เขาจำได้ตั้งแต่นั้นคือช่วงเวลาที่ดำมืดของชีวิตที่ถูกหลอกหลอนโดยเจ้าหนี้เงินกู้
'มันเป็นมรดกเพียงอย่างเดียวที่เหลือไว้ให้เรา'
อย่างไรก็ตาม วีด ก็ยังคงคิดถึงพ่อกับแม่ของเขา  ถ้าเป็นไปได้ เขายอมจ่ายไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็ตามถ้าทำให้พ่อแม่ของเขาฟื้นกลับมาได้
.
.
.
เมื่อ เห็นผู้ที่(น่าจะ)เป็นพระผู้ช่วย กำลังจมดิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง
แกนดิลวาจึง รู้สึกกลัดกลุ้มและถามขึ้น
"..บางทีท่านอาจจะไม่พอใจในค่าตอบแทน...?"
"....."
"ถ้ายังไง หมู่บ้านของข้าฟื้นคืนเหมือนเดิม  ข้าจะจ่ายให้ท่านมากกว่านี้"
"ไม่ใช่ครับ  แค่นี้ก็เกินกว่าที่ผมจะรับไว้ได้แล้ว ผมจะทำภารกิจให้สำเร็จให้เร็วที่สุด"

You Accepted the Quest
คุณยอมรับภารกิจ

"ขอบคุณท่านมาก  พวกลิซาร์ดแมนมุ่งหน้าไปที่หุบเขาในภูเขาด้านตะวันตกของหมู่บ้าน
ข้าจะรอคอยข่าวดีจากท่าน"

เมื่อ แกนดิลวา จากไป  เพื่อนร่วมทีมของ วีด ก็เข้ามาสมทบ
"คุณ วีด เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?"
"นายรับภารกิจรึเปล่า?"
เพล และ เซอร์กะ มอง วีด ด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อ ว่าเขารับภารกิจใหม่ที่ให้ผลตอบแทนเป็นแค่เมล็ดพืชเท่านั้น
"อย่าเพิ่งถามเลย  ไปตามชายคนนั้น และรับภารกิจที่ผมเพิ่งรับมาก่อน"
วีด คือผู้นำปาร์ตี้ตัวจริง
เพื่อนร่วมทีมของเขาคิดว่า น่าจะมีเหตุผลเบื้องหลังบางอย่างที่ วีดยืนกรานเช่นนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเดินไปหา แกนดิลวา และขอรับภารกิจ  ซึ่ง แกนดิลวา ก็กระตือรือล้นมอบให้อย่างมาก
"หนูไปกับคุณ วีดด้วยนะ"
"ผมอาสาที่จะใช้ธนูคันนี้เพื่อช่วยเหลือพวกชาวบ้าน"

-You party Accepted the quest(ปาร์ตี้ของคุณยอมรับภารกิจ)
คนอื่นๆที่เหลือต่างก็รับภารกิจนี้ แต่พวกเขาก็ยังสงสัยว่าทำไม
เพล ส่ายหัวและพูดว่า
"เราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนายเลือกทำภารกิจนี้แทนที่จะไปทำภารกิจกองกำลังกวาดล้าง ทั้งๆที่พวกเราเดินทางมาถึงนี่แล้ว"
"ถ้าผมคิดไม่ผิด  ภารกิจนี้จะเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก   แต่ยังไงไม่ว่าผมจะคิดผิดหรือไม่  มันก็ยังดีกว่าไปสู้กับพวกลิซาร์ดแมนพร้อมกองกำลัง"
"หมายความว่ายังไงเหรอ?"
"ต่อให้เราไปสู้กับลิซาร์ดแมนพร้อมกับกองกำลัง  ที่เลเวลขนาดพวกเรา   ยังไงก็คงไม่ได้ค่าประสบการณ์หรือชื่อเสียงมากเท่าไหร่หรอก"

พวกเขาเห็นด้วยกับ วีด
เลเวลของพวกเขานั้นห่างชั้นกับ ดาริอุส และลูกสมุนของเขามาก
ที่พวกเขาสนใจจริงๆคือ ภารกิจค้นหาและทำลายที่จะเกิดขึ้นเมื่อกองกำลังขับไล่พวกลิซาร์ดแมนออกจากหมู่บ้านแล้ว  ดังนั้นการต่อสู้ที่กินขอบเขตกว้างขวางจึงไม่ค่อยมีความหมายสำหรับพวกเขา  เพราะถ้าถูกขนาบด้วยผู้เล่นสองร้อยกว่าคนที่เลเวลสูงกว่าพวกเขา
ปาร์ตี้ของ วีด ก็เป็นได้แค่ภาระ
"ผมมีลางสังหรณ์ว่า พวกเราควรเปลี่ยนมาทำภารกิจนี้จะดีกว่า" วีด กล่าว
"แต่มันยาก ระดับ Dเลยนะคะ...คุณ วีด ไม่คิดว่ามันจะยากเกินไปสำหรับพวกเราห้าคนเหรอคะ?" เซอร์กะ ถามเขา
"ไม่ต้องห่วง ผมมีแผน" วีด ตอบ
"โอเค คุณ วีด พวกเราจะไปกับคุณ" เพล บอก
 ปาร์ตี้ของ วีด ตัดสินใจรับภารกิจ และล่าถอยออกจากกองกำลัง ทันใดนั้น ชายสองคนก็เดินเข้ามาหาพวกเขา-ทหารที่กำลังหนีทัพ

พวกเขาคือ เบคเคอร์ และ เดล  ,เดนาเรี่ยน แห่งกองทัพโรเซนไฮม์
"หัวหน้า! จะไปไหนเหรอครับ?" เดล ถาม
"พวกเรากำลังจะไปจัดการกับ ลิซาร์ดแมน" วีด ตอบ
วีด ตอบอย่างมั่นใจ
"ผมกับเพื่อนร่วมทีมกำลังจะไปปลดปล่อยพวกชาวบ้าน , พ่อและแม่ของเด็กน้อยที่ไร้บ้าน จากรังของพวกลิซาร์ดแมน"
"ท่าทางจะเป็นภารกิจที่ยากน่าดู!"
เบคเคอร์ เชื่อในคำพูดของ วีด
แต่ เดลยังคงดูสงสัย
"แค่พวกคุณห้าคน จะสามารถแทรกซึมเข้าไปถึงแหล่งกบดานของพวกมันได้เหรอครับ?"
เดล วิเคราะห์ปาร์ตี้ของ วีด เขาคิดว่า ปาร์ตี้นี้อ่อนแอกว่าเขาเสียอีก ดังนั้น เขาจึงเอามือทุบอกและเสนอแนะว่า
"หัวหน้า พวกเราจะสนับสนุนภารกิจนี้เอง" เดล กล่าว
"ใช่เลย  ผู้บังคับบัญชาต้องอนุญาตให้พวกเราไปด้วยแน่ถ้าเขาทราบเรื่องนี้" เบคเคอร์ หนุนเสริม
มิตรภาพที่ระหว่างพวกเขาที่ วีด สร้างขึ้นมา ได้ผลอีกครั้ง

ในบางเหตุการณ์ที่เหล่าทหารเห็นว่าไม่เหมาะสม พวกเขาจะปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยเด็ดขาด โดยไม่คำนึงถึงความภักดีแต่อย่างใด เช่น การทรยศ หรือ การเข่นฆ่าชาวบ้านตาดำๆ
โดยที่ค่าความมีเสน่ห์กับความสัมพันธ์ที่ดีก็ไม่สามารถจูงใจพวกเขาได้ ยกเว้นกรณีที่เป็นคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาที่มีชื่อเสียง หรือเพราะสิ่งนั้นเป็นต้นเหตุ

ในกรณีของ วีด
ในสายตาของเหล่า เดนาเรียน สิ่งที่กระตุ้นทหารเหล่านี้ได้คือ บทบาทฮีโร่ของ วีด ที่อุทิศตนเพื่อไปช่วยเหลือพวกชาวบ้าน ซึ่งมันสอดคล้องกับภารกิจหลักของกองกำลังกวาดล้าง ดังนั้นพวกทหารจึงรู้สึกว่าสมควรช่วยเหลือ วีด
เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง   วีด ก็ได้กล่าวออกมาว่า
"ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินเช่นนั้น แต่ผมคงไม่สามารถรับความช่วยเหลือจากพวกคุณได้
พวกคุณยังต้องนำชัยชนะมาสู่หมู่บ้าน บารัน โดยการนำของ ดาริอุส ไม่ใช่รึ?"
"แต่ว่า..."
"ภารกิจนี้ ยิ่งคนน้อยยิ่งดี!  ผมขอให้คุณจงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด  ลองคิดดูว่าจะเป็นยังไงถ้าผมสามารถช่วยเหลือผู้คนออกมาได้ แล้วแต่พบว่าไม่มีที่ให้พวกเขาอาศัยอยู่อีกต่อไป?"
"...รับทราบครับหัวหน้า"
เบคเคอร์ กับ เดล ถูก วีด  โน้มน้าวจนต้องยอม
จริงอยู่ว่า ทหารสองร้อยคนจากกองทัพโรเซนไฮม์  ย่อมสามารถช่วยเหลือคนที่ถูกจับตัวไปออกมาจากรังของพวกลิซาร์ดแมนได้โดยง่าย
โดยเฉพาะเมื่อ เดนาเรียน ทั้งหมดต่างเคยรับใช้ วีด มาก่อน
ภารกิจย่อมง่ายดายมากถ้าเขายอมรับความช่วยเหลือจากพวกทหาร และด้วยค่าเสน่ห์ของเขาจะทำพวกทหารกลายเป็นกองกำลังที่น่าเกรงขาม
อย่างไรก็ตาม  ผลเสียคือ ดาริอุส ย่อมรู้ตัวในเรื่องนี้แน่
ปาร์ตี้ของวีด อาจจะไปจากกองกำลังกวาดล้างได้โดยไม่มีใครรู้ตัว แต่ การที่ทหารจำนวนมากหายไป นั่นเรื่องนี้ย่อมไปถึงหู ดาริอุส แน่นอน และนั่นจะกระตุ้นให้ ดาริอุส ต้องค้นหาว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
.
.
.
วีด กับเพื่อนร่วมทีม มุ่งหน้าสู่ภูเขาด้านตะวันตกของหมู่บ้านบารัน ตามที่ แกนดิลวา บอกมา
ภูเขาด้านตะวันตกนั้นมีบรรยากาศที่ไม่สู้ดี
มีหมอกหนาลอยขึ้นมาจาก บริเวณน้ำตกในหุบเขา ซึ่งนั้นเอื้อประโยชน์ต่อพวกลิซาร์ดแมนมาก
"เราคิดว่า เขตแดนของพวกมันคงขยายมาจากตรงนี้"
เพล ซึ่งเป็น แรนเจอร์ นั้นมีทัศนวิสัยและทักษะในการสังเกตที่สูงล้ำเนื่องจากข้อดีของอาชีพเขา
มันเป็นสิทธิพิเศษของ แรนเจอร์ ซึ่งสามารถวิเคราะห์ภูมิประเทศที่หลากหลายและสกัดขัดขวางศัตรูได้จากระยะไกล
เพล  เน้นไปในด้านทักษะติดตัวของอาชีพ แรนเจอร์ เช่นการยิงต่อเนื่อง กับการยิงเจาะเกราะ
ซึ่งเป็นที่นิยมมากในการที่จะมุ่งไปสู่อาชีพขั้นที่สองของ แรนเจอร์
ในขณะที่วีด ผู้มีอาชีพเป็นประติมากร เน้นไปที่ทักษะด้านดาบ ซึ่งต้องขอบคุณความเชี่ยวชาญด้านประติมากรรมและ มีดแกะสลักของ ซาฮัป ที่เขามี
"อืม  ผมคิดว่าพวกลิซาร์ดแมน ข้ามเขตแดนด้านตะวันออกมาและ อาศัยชั่วคราวอยู่ที่นี่" วีด ตอบสั้นๆ ในขณะที่กำลังศึกษาภูมิประเทศ
ดูเหมือนว่าหุบเขานี้จะกว้างขวางกว่าที่เขาคิด
พวกเขาค่อยๆย่ำเดินไปด้วยความกลัวว่า พวกลิซาร์ดแมนอาจจะโผล่ออกมาจากป่ารอบๆในทันทีทันใด
ในที่สุด พวกเขาก็เผชิญหน้ากับ นักรบลิซาร์ดแมนหนึ่งตัว (Lizardmen Warrior)

มอนสเตอร์พวกนี้เหมือนกิ้งก่ายักษ์ที่ยืนสองขา มีผิวหนังสีเขียว เลเวลประมาณ 60 หรือน้อยกว่านั้น
"อี๋. น่าเกลียดอะ" โรมุเนะ ให้ความเห็น
วีด ไม่มีทางไม่เห็นด้วยกับเธอ
มอนสเตอร์โดยปกติมักจะน่ารังเกียจและไม่น่าดูอยู่แล้ว  ถึงกระนั้น มันก็ไม่ทำให้เขากลัวแต่อย่างใด
'ลองใช้วิธีแบบเดียวกับก็อบลินดูละกัน' เขากล่าวกับตัวเอง
ลิซาร์ดแมนนั้น เลเวลสูงกว่าพวกก็อบลินประมาณสิบเลเวล  แต่พวกมันเสียเปรียบก็อบลินตรงที่อาศัยอยู่บนพื้นที่ธรรมดาไม่ใช่ในรัง  เพราะมอนสเตอร์ที่อยู่ในรังหรือกรณีที่เป็นตอนกลางคืน  จะแข็งแกร่งขึ้น อีก50%
ดังนั้น ลิซาร์ดแมนตัวนี้ ไม่ได้เก่งไปกว่าก็อบลิน
.
.
.
.
.
วีด หยิบดาบเหล็กขึ้นมา แทนที่จะเป็นธนู
เขารู้สึกคันไม้คันมือมากเนื่องจาก เขาไม่ได้เข้าสนามต่อสู้มานานแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งกับการทำอาหารและขายรูปสลัก
'ลองใช้ วิชาดาบสักท่าละกัน'


วิชาดาบจักรพรรดินิรลักษณ์!
(Imperial Formless Sword Technique!)
ท่วงท่าที่ถูกบันทึกอยู่ในหนังสือทักษะนั้นได้แก่
ท่าที่ 1 (The First Form)
ใช้มานา : 300
จู่โจมศัตรูสามครั้งติดต่อกันอย่างงดงาม
เมื่อทักษะพัฒนาขึ้น จำนวนครั้งและพลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น
ท่าที่ 2 (The Second Form)
ใช้มานา : 400
หลบไปด้านหลังศัตรูอย่างรวดเร็ว และจู่โจมใส่ด้านหลัง
ท่าที่ 3 (The Third Form)
ใช้มานา : 600
ทำลายอาวุธศัตรูโดยการเพิ่มพลังโจมตีขึ้นห้าเท่าชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ท่าที่ 4 (The Fourth Form)
ใช้มานา : 1000
เล็งหาจุดอ่อนของศัตรูด้วยการเคลื่อนที่ราวกับเต้นรำ***

ท่าที่ 5  (The Fifth Form)
รีดเร้นมานาทั้งหมดประสานเข้ากับดาบและระเบิดออกมาในทีเดียว
มานาจะถูกใช้จนหมด และถ้าปริมาณมานาต่ำกว่า 2,000  พลังชีวิตจะถูกลดไปด้วยเช่นกัน
.
.
.
.
.
ส่วนอีกหนึ่งท่าก้าวเท้านั้น เป็นทักษะ ต่อสู้แบบเรียกใช้ เพื่อหลบการโจมตีของศัตรูโดยการก้าวเจ็ดก้าวอย่างรวดเร็ว

วีด  ตั้งชื่อให้แต่ละรูปแบบในวิชาดาบดังนี้
รูปแบบที่หนึ่ง เขาตั้งชื่อมันว่า ทริปเปิ้ล (triple = 3) และตั้งชื่อรูปแบบที่เหลือไล่เรียงตามลำดับมาเป็น แบ็คสแตป  (Backstab)**  , พาวเวอร์เบรค (Power Break)**  ,  ระบำดาบ (Sword Dance) และ ดาบจักรพรรดิ  (Sword Kaiser)
และต้องขอบคุณโอสถจักรพรรดิ**  ที่ทำให้ค่ามานาสูงสุดของ วีด นั้นมีถึง 940 จุด  ซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถใช้ท่า ทริปเปิ้ล ได้สามครั้ง แบ็คสแตป ได้สองครั้ง และ ใช้ท่า พาวเวอร์เบรคได้ครั้งเดียว
ส่วนท่าที่เกินกว่าท่าที่สามนั้นไม่ต้องพูดถึงแต่อย่างใด เพราะมานาของเขา ไม่เพียงพอที่จะใช้ท่าเหล่านั้น  แม้เขาจะใช้ท่ารูปแบบที่ห้า หรือ ดาบจักรพรรดิ   ได้โดยไม่ต้องใช้มานา แต่มันก็ค่อนข้างจะเสี่ยงเกินไปที่จะเดิมพันชีวิตกับการโจมตีเพียงครั้งเดียว
เขาตั้งชื่อวิชาก้าวเท้าที่ได้จากหนังสือทักษะว่า
เจ็ดย่างก้าวแห่งสรวงสวรรค์ (Seven Celestial Footstep**) โชคดีที่ท่านี้ใช้มานาเพียงหนึ่งร้อย หน่วยและอยู่ได้นานอย่างน้อยหนึ่งนาทีนับจากเริ่มใช้

'ดูซิว่า จะทำอะไรได้บ้าง'
ตั้งแต่เขาได้เรียนรู้วิชาดาบจักรพรรดินิรลักษณ์  วีด ยังไม่เคยได้ลองใช้ต่อสู้เลยสักครั้ง
.
.
.
"ตอนกลางวัน พวกมันจะไม่เก่งเท่าที่ควร" วีด กล่าวกับเพื่อนร่วมทีมของเขาเบาๆ
"พวกลิซาร์ดแมนจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อตอนอยู่ตามหนองน้ำ แต่ในหุบเขาแห่งนี้มันจะอ่อนแอลง  ผมจะลองเข้าไปสู้กับมันดูก่อนนะ"
.
.
.
พวกมอนสเตอร์ที่ปรับสภาพตัวเองให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศที่แห้งแล้ง อย่างแมงป่องพิษหรือหนอนทราย จะได้เปรียบมากตอนที่มันอยู่ในทะเลทราย
ในกรณีของลิซาร์ดแมนที่มักอาศัยอยู่ตามหนองน้ำนี้ พวกมันจะอ่อนแอตอนอยู่บนพื้นดินโล่งๆ เช่นเดียวกับตอนนี้
แม้กระนั้น  เพื่อนร่วมทีมของเขาต่างประหลาดใจ
วีด แนะนำให้พวกเขาบุกจู่โจมรังของพวกลิซาร์ดแมน
ซึ่งพวกเขาก็ตาม วีด มาถึงตรงนี้  แต่ที่พวกเขาคิดไว้คือ พวกเขานึกว่า วีด จะมีแผนการสุดยอดที่จะจัดการพวก ลิซาร์ดแมนที่มีจำนวนมหาศาลกว่าพวกเขามากได้อย่างสบาย
"ด...ดะ  เดี๋ยวก่อน พวกเราจะเข้าไปในรังของมันจริงๆเหรอ?" เพล ถาม
"ใช่แล้ว ทำไมเหรอ" วีด กล่าว
"แต่ภารกิจนี้ ยากระดับD เลยนะ..." เพล กล่าวออกมา
"สำหรับความยากระดับ D น่าจะมีลิซาร์ดแมนอย่างน้อย 800 ตัวอยู่ข้างในนั้น ว่างั้นไหม?" วีด กล่าว
เพล พยักหน้าให้ วีด อย่างพูดอะไรไม่ออก
"คงราวๆ 800 ตัว"
"ผมค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าเรายอมรับคำร้องขอ ของ แกนดิลวา  ก็คงต้องลุยประมาณนี้แหละ แต่ คงไม่ทั้งหมดหรอก เพราะ ดาริอุส กำลังจะมีส่วนช่วยพวกเราด้วย"
"ดาริอุส กำลังจะช่วยพวกเรา?"
ในขณะที่ เพล กำลังหัวหมุนด้วยความสับสน วีด หยิบขวดแก้วเล็กๆออกมาให้แก่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ
"อันนี้คือ? ยาเพิ่มพลังเหรอ?" โรมุเนะ ถามเขา
"นี่คือเครื่องดื่มที่ผมบ่มไว้ก่อนที่พวกเราจะออกจากป้อมปราการมา  ผมซื้อขวดแก้วเปล่าราคาถูกจากร้านขายยาใส่มันไว้" วีด บอก
"แล้วทำไมถึงเอาออกมาตอนนี้ล่ะคะ?" เซอร์กะ บอก
"ลองกินดู เดี๋ยวก็รู้ครับ"  วีด พูด
วีด  ดื่มมันเข้าไปอย่างรวดเร็ว

คุณดื่มบรั่นดีแห่งพละพลัง (Brandy of Vitality)
 ประสิทธิภาพ : +100  Life +10 STR  +5DEX
ลดความรู้สึกเจ็บปวดจากอาการบาดเจ็บ

เพื่อนร่วมทีมของ วีด ดื่มสิ่งที่อยู่ในขวดลงไป และต่างตะหนกตกใจ
"ไม่อยากจะเชื่อ  บรั่นดีนี่มัน..."  ไอรีน พูดออกมา

เซอร์กะ เพิ่งมาถึงวัยที่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายได้ไม่นาน ดังนั้น เธอจึงมีความรู้สึกไวต่อแอลกอฮอล์อย่างมาก
ด้วยกลิ่นหอมที่น่าดึงดูดของ บรั่นดี ดังนั้นเธอจึงดื่มมันจนกระทั่งถึงหยดสุดท้ายและเคลิ้มไปกับความหวานอันน่ารื่นรมณ์นี้ยิ่งกว่าใคร
"มันถูกบ่มไว้นานไม่พอ ดังนั้นประสิทธิภาพของมันจึงมีจำกัด  แต่คุณสามารถดื่มมันพร้อมกับกินอาหารได้โดยไม่เมา" วีด บอก
เมื่อ วีด ดื่มบรั่นดีเสร็จแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปสู่ที่ๆ ลิซาร์ดแมนนักรบอยู่

*******************************************

ดาริอุส คิดว่าตนเองโชคดีมาก
ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่มีโอกาสได้รับมอบหมายภารกิจกองกำลังกวาดล้างซึ่งหาได้ยากมากนี้
ภารกิจที่มีเป้าหมายอยู่ที่หมู่บ้านบารัน
มันจะยกระดับชื่อเสียงของเขาไปอีกมิติหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งจะตามมาด้วยค่าชื่อเสียงและประโยชน์และภารกิจอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยการได้ควบคุมกองกำลังกว่าห้าร้อยคน ดาริอุส จึงรู้สึกว่าตนเองเหมือนเป็นแม่ทัพจริงๆ
.
.
.
ในที่สุด กองกำลังกวาดล้างที่นำโดย ดาริอุส ก็มาถึงบริเวณใกล้เคียงกับหมู่บ้าน บารัน
รั้วไม้ ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้มอนสเตอร์เข้ามาต่างล้มละเนระนาด  และประตูของบ้านทุกๆหลังต่างแตกหัก
กองกำลังมองภาพดังกล่าว จากบนเนิน  พวกเขาไม่เห็นมอนสเตอร์ในหมู่บ้านแต่อย่างใด  กระนั้น  พวกเขาก็ยังผ่อนคลายไม่ได้
ดาริอุส บอกลูกสมุนคนหนึ่งของเขา
"แพรอส(Parros) ลองไปสำรวจแถวนั้นดูหน่อย"
"ได้เลย  พักที่นี่รอจนข้ากลับมาละกัน"

แพรอส มีอาชีพเป็นโจร ด้วยทักษะสังเกตการณ์และค่า ความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นถึงขีดสูงสุด  เขาย่ำเข้าไปในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

หนึ่งชั่วโมงต่อมา  แพรอส กลับมาอย่างเหนื่อยหอบ และรายงานว่า
"มีพวกลิซาร์ดแมนเป็นร้อย ซ่อนอยู่ในนั้น!  พวกมันรอให้เราเข้าไปใกล้กว่านี้"
"ดูเหมือนพวกมันอยากจะสู้แบบตะลุมบอน"
ดวงตาของ ดาริอุส จ้องมองไปด้วยความเย็นชา
เห็นได้ชัดว่า ลิซาร์ดแมนนั้นมีจำนวนมากกว่ากองกำลังของเขา ดังนั้นพวกมันจึงล่อพวกเขาให้เข้าไปสู่กันต่อสู้แบบชุลมุน  แต่ ดาริอุส ก็พอใจเช่นนั้น
เพราะในสถานการณ์ที่วุ่นวาย ดาริอุส กับลูกสมุนของเขาที่มีเลเวลสูงที่สุดในกองกำลัง ย่อมสามารถเก็บแต้มการฆ่าได้มากที่สุด และผลลัพธ์คือ พวกเขาจะได้เครดิตมากที่สุดเช่นกัน
'ถ้าพวกมันต้องการแบบนั้น  ก็จัดไป ...' ดาริอุส กล่าวกับตัวเองและกู่ร้อง

"เหล่านักรบเอ๋ย  ไปที่หมู่บ้าน เดี๋ยวนี้!"
กองกำลังพุ่งไปที่หมู่บ้านราวกับพายุ  ทันใดนั้นพวกลิซาร์ดแมนที่ซ่อนตัวในบ้าน ก็ ปรากฏตัวออกมา
*ก๊าซ*
"มนุษย์!"
ลิซาร์ดแมน สัตว์เลื้อยคล้านที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มือหนึ่งถือโล่ และอีกมือหนึ่งถือดาบ
ผู้เล่นเกือบทั้งหมด ต่างตื่นตระหนกตกใจ
ดาริอุส ไม่ได้บอกพวกเขาว่า พวกลิซาร์ดแมนแอบซ่อนตัวอยู่แถวนี้
.
.
.
ดาริอุสกุดหัวลิซาร์ดแมนนักรบไปหนึ่งไป และพึมพำกับตัวเองเบาๆว่า 'กูไม่อยากได้พวกอ่อนแอ  ที่ต้องการก็แค่คนเก่งๆที่เชื่อฟังเท่านั้น ดังนั้นทำไมจะต้องไปแชร์ประสบการณ์กับชื่อเสียงให้พวกกระจอกพวกนี้?'
ดาริอุส ใช้ยุทธวิธีที่เลินเล่อและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บล้มตายอย่างมากนี้โดยเจตนา
เพราะเขาคิดว่า ค่าประสบการณ์และค่าชื่อเสียงที่เขาจะได้รับอาจจะลดลงถ้าต้องไปแชร์ให้ผู้เล่นอีกสามร้อยคนอย่างเท่าเทียมกัน
.
.
.
กองทหารแห่งกองทัพโรเซนไฮม์  ติดตาม ดาริอุส  มาห่างๆ
โดยมีผู้บัญชาการคือ เซอร์ โจวานเทส (Sir Jovantes)
เมื่อเขาตระหนักได้ว่า กองกำลังหลงติดกับการต่อสู้แบบตะลุมบอน  และถูกล้อมรอบโดยพวกลิซาร์ดแมนที่พุ่งออกมาจากทุกทิศทุกทาง
เขาก็ตะโกนออกมา "เตรียมพร้อมอยู่กับที่ ! แต่ละหมวดจัดขบวนเป็นวงกลม  และตอบโต้พวกมัน!"
ทหารสิบคนหันหลังให้กันและสร้างกำแพงมนุษย์รูปวงกลมขึ้น  ซึ่งเป็นรูปแบบการต่อสู้ที่ขึ้นชื่อของกองทัพโรเซนไฮม์  
ในแต่ละหมวดจะนำโดย เดนาเรียน  เช่น เบคเคอร์ และ ฮอสแรม
"จัดขบวนตั้งรับ"
"ใช้ขบวนตั้งรับ"
"ทางนี้ด้วย"
เดนาเรียน  เกือบทั้งหมดที่ฝึกโดย วีด นั้น ต่างตัดสินใจเช่นเดียวกัน

การป้องกันต้องมาก่อน!
มีเพียง เบคเคอร์ เท่านั้นที่ต่างออกไป
"ไปจัดการพวกมันกันเถอะ!"
ทหารแห่งโรเซนไฮม์  ซึ่งจัดขบวนป้องกันทรงกลม ก่อกวนและหลอกล่อเข้ามาในวงล้อม
พวกเขาปิดตายทางออกของศัตรูที่บุกหลงเข้ามาในทางวกวนคดเคี้ยว
ด้วยรูปแบบการป้องกันทรงกลมทั้งแบบเปิดและปิด    เบคเคอร์ และลูกน้องทั้งสิบคนของเขาปรากฏตัวออกมาและสับสังหารลิซาร์ดแมนที่หลงกล

***********************************


เมื่อ วีดเข้าไปใกล้จนพวกลิซาร์ดแมนนักรบสังเกตเห็น  พวกมันก็กรีดร้องอย่างดุร้าย
"มนุษย์!"
"พวกมนุษย์โง่เง่า   เข้ามาตายซะดีๆ!"
ลิซาร์ดแมนกวัดแกว่งดาบ พุ่งเข้าใส่เขา
ลิซาร์ดแมนนักรบ ห้าตัว
เลเวลของลิซาร์ดแมนพวกนี้แต่ละตัวนั้นไม่สูงมากนัก แต่มันก็ชดเชยได้ด้วยจำนวนของพวกมัน
ถ้า วีด ถูกล้อมไว้ได้ล่ะก็ เขาต้องเผชิญกับพวกมันทั้งหน้าและหลัง  ทั้งซ้ายและขวา  แล้วยังมีแถมเพิ่มอีกหนึ่งตัว
แต่กระนั้น วีด ก็ยังมั่นใจ
ตลอดหนึ่งเดือนในหอฝึกตน เขาเพิ่มค่า STR, DEX, และ VIT มาถึง 40 จุด
ซึ่งถ้าคุณได้ยินแบบนี้   คุณคงคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ  แล้วจากนั้นคุณก็จะคิดว่าทำไมถึงไม่มีใครทำแบบเดียวกันนั้นเลย เพราะด้วยค่าสถานะที่สูงขึ้น มันย่อมทำให้ล่ามอนสเตอร์ได้ง่ายขึ้น

แต่มันใช้เวลาถึงหนึ่งเดือน
คุณต้องตีแต่หุ่นไล่กาไปตลอดทั้งเดือน  คุณจะสามารถอดทนต่อความเบื่อหน่ายและความทุกข์ยากทางกายได้งั้นหรือ?
ซึ่งถ้าคุณตีหุ่นไล่กา 20 ชั่วโมงต่อวัน ในหนึ่งเดือนก็จะใช้เวลาทั้งหมด 600 ชั่วโมง
คุณต้องทำแบบเดิมซ้ำๆไปเรื่อยแม้จะรู้สึกเจ็บปวด ด้วยความรู้สึกว่ากล้ามเนื้อของคุณบีบเค้น ถึงขนาดที่นักกีฬาอาชีพยังไม่ทำถึงขนาดนั้น

โดยทั่วไปแล้ว นักกีฬามืออาชีพ จะใช้เวลาไม่เกิน 5 ชั่วโมงต่อวันในการฝึกร่างกายของพวกเขา
แต่ที่ วีด ทำนั้นเทียบเท่าได้กับ  120 วันของนักกีฬาทั่วไป
หรือในอีกมุมหนึ่ง มันเทียบได้กับการออกกำลังในยิมวันละหนึ่งชั่วโมงตลอดสองปี โดยไม่หยุดพักเลยสักวัน
จะมีใครยอมทุ่มเทมากขนาดนี้เพื่อที่จะเพิ่มค่าสถานะ สี่สิบแต้ม?
การที่วีด สำเร็จสิ่งเหล่านี้ในหนึ่งเดือนนั้นแสดงให้เห็นได้ถึงความมุมานะของเขา
.
.
.
แทนที่ วีด จะกลัว  เขากลับยินดีต้อนรับพวกลิซาร์ดแมนอย่างมาก เพราะเขายังมีวิชาดาบที่ยังไม่ได้ลองมาก่อนอยู่
วีด กับ เซอร์กะ ยืนอยู่แนวหน้าเพื่อเตรียมปะทะกับการบุกของพวกลิซาร์ดแมน  เนื่องจากปาร์ตี้ของพวกเขาขาดนักรบหรืออัศวิน ดังนั้น ทั้งสองคนนี้จึงต้องเข้าไปทดแทนในบทบาทของผู้ที่ต้องต่อสู้ระยะประชิด
"เอ่อ...คุณ วีด คะ"  เซอร์กะ กล่าวออกมา
"ครับ ว่าไง?" วีด ถามกลับ
"ถ้าหนูตาย  ยังไงคุณ วีด ก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ"
เซอร์กะ ไม่มั่นใจกับการต้องเผชิญหน้ากับลิซาร์ดแมนห้าตัว
"ไม่ต้องห่วงครับ คุณ เซอร์กะ  ถ้าจะมีใครต้องล้มลง  ผมจะเป็นคนแรกเอง ,  ผมจะดึงดูดความโกรธของมันอย่างที่เคยทำ" วีด กล่าวอย่างมั่นใจ
"แต่ว่าคุณ วีด เป็นประติมากรไม่ใช่เหรอคะ อ๊ะ  ว่าแต่ คุณ วีด เลเวลอะไรแล้วคะ?" เซอร์กะ ถาม
"68 "
วีด  รีบพุ่งออกไปปะทะกับลิซาร์ดแมน
"ระวังค่ะ!" เซอร์กะ ร้องบอก
การกระทำอย่างฉับพลันของ วีด ทำให้เพื่อนร่วมทีมของเขาตื่นตระหนก   แต่ วีด นั้นยังสำรวมใจไว้ได้

"เจ็ดย่างก้าวแห่งสรวงวสรรค์ (Seven Celestial Footstep)!" วีด ร่ำร้องออกมา
วีด เรียกใช้วิชาก้าวเท้าที่เขาตั้งชื่ออย่างมั่นใจ  มันเป็นวิชาสำหรับหลบการโจมตีของศัตรูด้วยการก้าวเท้าอย่างไม่ปกติและคาดเดาไม่ได้
จากที่พุ่งตรงไปข้างหน้าเข้าใส่พวกมัน ทันใดนั้นเขาก็หายไปจากเบื้องหน้าของพวกลิซาร์ดแมน และไปโผล่ที่ด้านขวาของพวกมันในวินาทีต่อมา
"ท่าที่ 1 ทริปเปิ้ล (Triple)!" วีด ตะโกน
วีด เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วแล้วทิ่มแทงดาบของเขา
เงาดาบ สามเงา โจมตีไปที่ลำตัวด้านล่าง  ตรงกลาง  และส่วนบนของลิซาร์ดแมนพร้อมๆกัน
*ฉัวะ*
.
.
.

พวกลิซาร์ดแมนนั้น แข็งแกร่งกว่าก็อบลิน
ร่างกายของพวกมันมีลักษณะที่ยืดหยุ่นของสัตว์เลื้อยคลาน และมีความว่องไวสูง
พลังโจมตีของพวกมันอาจจะไม่มาก  แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือผิวสีเขียวของพวกมันซึ่ง มีความสามารถในเชิงป้องกันดีเยี่ยม และพวกมันยังสวมใส่เกราะที่ปล้นมาจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้พวกมันเป็นศัตรูที่ยากจะต่อกร
*กิ๊ซซ*
การโจมตีจากทักษะของ วีด ทำให้ลิซาร์ดแมนร้องด้วยความเจ็บปวด  มันสูญเสียพลังชีวิตไปถึง 80% และใกล้จะตาย
.
.
.
ทักษะพาวเวอร์ช้อต ( Power Shot) ของ  เพล ซึ่งเป็นจุดขายของอาชีพ แรนเจอร์ นั้น ใช้มานา 25 หน่วย ซึ่งเทียบกับทักษะของ วีด แล้วนั้น  เพียงการโจมตีแค่ครั้งเดียว ก็ใช้มานาไปถึง 300 หน่วยแล้ว  แต่มันก็ทำให้ค่าความเสียหายที่สูงมาก
.
.
.
เซอร์กะ ที่ตอนนี้อยู่ใกล้ๆ  วีด
เธอมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างชัดเจน
เธอร่วมต่อสู้กับ วีด มาหลายครั้ง ตั้งแต่เมื่อเขาฆ่าหมาป่าเพื่อช่วยเพื่อนร่วมทีมของเธอ โดยไม่คำนึงถึงตัวเอง โดยที่เขาเป็น ผู้นำของปาร์ตี้
แต่คราวถัดมาเมื่อพวกเขาพบ  วีด  อีกครั้ง วีด บอกกับพวกเขาว่า เขากลายเป็นประติมากร และเริ่มทำอาหาร
เรื่องทั้งหมดนี้มันยากซึ่งจะเข้าใจ  แต่ดูเหมือนว่าความสามารถด้านการต่อสู้ของ วีด จะยังไม่หายไป
'เราไม่รู้ว่านั่นมัน สกิลอะไร  แต่มันยอดไปเลย...แต่ยังไงก็ตาม' เซอร์กะ คิด
เธอรู้สึกราวกับว่ามีดาบสามเล่มแทงไปที่ลิซาร์ดแมนเกือบจะในทันทีที่ วีดใช้ ทริปเปิ้ล
'เราไม่ยอมแพ้หรอก!'
เซอร์กะ ชกไปที่ลิซาร์ดแมนที่ วีด โจมตีใส่ เธอต้องการให้หนึ่งในพวกมันตกตายลง
ลิซาร์ดแมนตัวนั้น ล้มลงเพราะมันถูกท่าของ วีดทำให้มึนงง  ซึ่งนั่นทำให้มันไม่มีทางหลบหมัดของ เซอร์กะ ได้

"Yon-Han-Kwon!"
(ทับศัพท์ไปเลยละกันเนอะ--ผู้แปล)
เมื่อศัตรูมีเลเวลสูงกว่าเธอ  ดังนั้น เซอร์กะ จึงใช้ทักษะที่ดีที่สุดตั้งแต่ต้น
เธอต่อยหมัดออกไปอย่างรวดเร็วถึงห้าครั้ง
มันคือทักษะต่อสู้พื้นฐานที่ ป็อปปูล่าที่สุดของอาชีพ พระ
ค่าความเชี่ยวชาญในหมัดต่อเนื่องของเธอนั้น ตอนนี้อยู่ที่ 65% แล้ว

*ปั๊ปๆๆๆๆๆ!(เสียงหมัด)*
ลิซาร์ดแมนที่ถูกชกที่อกและลิ้นปี่ สูญสลายกลายเป็นสีเทา
"อะไรกัน?"
เซอร์กะ ตกตะลึงไปชั่วคราว แม้ว่าเธอจะยังอยู่ในระหว่างการต่อสู้ก็ตาม
"มันติดมึน ก็จริง  แต่ทำไมมันถึงตายไวจัง?"
ในกรณีที่มอนสเตอร์ติดมึน  มันจะไม่สามารถขยับได้ และความเสียหายเมื่อโดนโจมตีจะเพิ่มขึ้นสองเท่า
แต่กระนั้น เซอร์กะ ก็ยังคงรู้สึกแปลกใจที่ ลิซาร์ดแมนเลเวลหกสิบ กลับตายง่ายๆเพราะการโจมตีจากหมัดของเธอ
.
.
.
พวกลิซาร์ดแมนตัวอื่นๆไม่อยู่เฉยอีกต่อไป เมื่อพรรคพวกของมันถูกโจมตี   พวกมันก็คำรามด้วยความโกรธ
ดาบสี่เล่มถูกฟาดฟันเข้าหา วีด เกือบจะพร้อมกัน ซึ่งนั่นทำให้ยากที่จะหลบหลีกได้
ร่างกายของ วีด หลบหลีกเหมือนต้นอ้อที่ลู่ลม  ดาบสามเล่มเฉี่ยวหัว ขา และไหล่ของเขาไป
แต่เล่มสุดท้ายซึ่งเขาไม่สามารถหลบได้ ฟันเข้าไปที่สีข้างของเขา ทำให้เกิดแผลยาว แต่ค่าความเสียหายลดลงสามเท่า

คุณเสียพลังชีวิต 350 หน่วย
(-350 life )

หนึ่งในข้อเสียหลายข้อของอาชีพประติมากร ก็คือ การที่ไม่สามารถสวมใส่เกราะหนักที่ทำจากเหล็กได้
อุปกรณ์ป้องกันที่ไม่ได้ทำจากโลหะนั้นค่อนข้างจะมีพลังป้องกันไม่ดีนักเว้นแต่มันจะทำจากวัสดุพิเศษหรือได้รับการลงอาคมถาวร
เมื่อ วีดสวมใส่เพียงเสื้อแจ็กเก็ตหนังธรรมดาที่ซื้อมาด้วยราคาเหมือนให้เปล่าจากร้านมือสอง ดังนั้นการโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เขาบาดเจ็บรุนแรงได้
.
.
.

"เคล็ดมีดสลัก (Engraving Knife Technique)!"
ดาบของ วีด ถูกห่อหุ้มด้วยแสงโปร่งใส ฟาดฟันใส่หนึ่งในลิซาร์ดแมนอีกครั้ง  เป้าหมายคือลำคอของมัน
*ฉัวะ*
มันคือจุดขายอีกอย่างหนึ่งในทักษะของเขา ที่เล็งไปยังจุดอ่อนของศัตรูได้อย่างเหมาะเจาะ
Critical Hit!
เคล็ดมีดสลัก นั้น จะช่วยทำให้การโจมตีตัดผ่านพลังป้องกันของศัตรูซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อ ลิซาร์ดแมนมาก
ข้อเสียของทักษะนี้ก็คือ มันใช้มานาจำนวนมาก ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ เขาคงใช้มันตลอดเวลาไปแล้ว
โรมุเนะ ร่วมโจมตีด้วยเวทมนต์ของเธอ
"เพลิงโหมกระหน่ำ (Fire Strike)!"
ก้อนเพลิงกระจายออกเป็นสี่ลูกกลางอากาศ และจู่โจมเข้าใส่ลิซาร์ดแมน
ผลข้างเคียงของมนต์นี้คือ ผลักศัตรูให้กระเด็นถอยไปชั่วคราว เรียกอย่างเป็นวิชาการก็คือ 'การพุ่งชน' ให้ผู้ใช้ได้เวลาพักหายใจ

"ธนูเพลิง (Fire Arrow)!"
เพล จัดการลิซาร์ดแมนด้วยลูกธนู  ซึ่งเคลือบไปด้วยธาตุไฟ ซึ่งนั่นทำให้พวกมันบาดเจ็บมาก

"หัตถ์แห่งการรักษา (Healing Hand)!"
ไอรีน ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ วีด อย่างรวดเร็ว  จากนั้นเธอก็ ร่ายพรศักดิ์สิทธิ์

"เทพเฟรย่าโปรดคุ้มครอง วีด ด้วยการคุ้มกันแห่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์  จงคุ้มครองให้ วีด เอาชัยจากพลังที่ชั่วร้าย อำนวยพร (Blessing)!"
พรศักดิ์สิทธิ์ช่วยเพิ่มพลังป้องกันและพลังโจมตี
มีมนต์จำนวนมากที่ช่วยเพิ่มค่าสถานะต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นมนต์ดำของ ชาแมน (Shaman) ที่ช่วยเพิ่มความเร็ว พลังและความแม่นยำชั่วคราว หรือออร่าของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยปาร์ตีี้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือพรของอาชีพ พรีส (Priest)
ถ้าคุณเคยต่อสู้มาอย่างยาวนานด้วยการสนับสนุนจากพรศักดิ์สิทธิ์(Blessing) ของ พรีส แล้วล่ะก็  หากคุณขาดมันไป คุณจะรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอลงอย่างมาก
.
.
.
เมื่อ ไอรีน จัดการหน้าที่ที่เธอต้องทำสร็จ  เธอเหวี่ยงใส่วีด  อย่างรวดเร็ว
"คุณ วีดเสี่ยงเกินไปแล้วนะคะ"
วีด ก้มหัวเป็นเชิงขอโทษให้เธอ
จริงๆแล้วเขาต่อสู้กับลิซาร์ดแมนโดยไม่ป้องกันด้วยความตั้งใจ เพื่อจะทดสอบความแข็งแกร่งของพวกมัน
ยิ่งไปกว่านั้น ที่เขาสนใจกว่าคือเขาอยากรู้ว่า วิชาดาบจักรพรรดินิรลักษณ์นี้จะทำความเสียหายได้มากเท่าไหร่
ซึ่งผลลัพธ์นั้นเกินกว่าที่เขาคาดไว้
เกือบทุกๆทักษะต่อสู้ที่ วีดมีตอนนี้ ขึ้นอยู่กับมานาจำนวนมหาศาล ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถต่อสู้อย่างยืดเยื้อได้ เพราะทักษะต่อสู้ของเขาดูดมานามากกว่าที่เขาจะสามารถฟื้นฟูได้ทัน
แต่วิชาพวกนี้ได้เปรียบอย่างมากกรณีที่เป็นการต่อสู้ในวงแคบ เพราะมันจะสร้างพลังโจมตีเต็มที่จนกว่ามานาของเขาจะหมด

นอกจากนั้น
ถ้าค่าความเชี่ยวชาญในวิชาดาบและทักษะช่างฝีมือของเขาเพิ่มขึ้น
ก็จะทำให้อัตราการใช้มานาของวิชาดาบเหล่านี้ลดลง  อีกทั้งเมื่อเขาเลเวลเพิ่มขึ้น มานาที่เขาสามารถใช้ได้ก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย
ซึ่งเมื่อเวลานั้นมาถึง ก็จะเป็นเวลาที่วิชาดาบจักรพรรดินิรลักษณ์เปล่งประกายโชติช่วง


อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ในสายตาของเพื่อนร่วมทีมของเขานั้น วีด ดูสะเพร่ามาก
เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่า วีด เลเวล 68 และอีกทั้งยังอคติกับอาชีพประติมากร  ทำให้พวกเขาคิดว่า วีด นั้นอ่อนแอกว่าศัตรู
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าพลังป้องกันของอาชีพประติมากรนี้น่าสมเพช  ซึ่งหากไม่รวมถึงอาชีพสายเวท  อาชีพประติมากรนี้ก็เป็นอาชีพที่อ่อนด้อยด้านป้องกันที่สุดแล้ว
แต่ด้วยการที่ วีดมี เคล็ดมีดสลัก และผลของความเชี่ยวชาญด้านประติมากรรมแทนที่ จึงทำให้เขามีพลังโจมตีที่ไม่มีใครเทียบได้

ประติมากรนั้นบอบบาง
แต่อนาคตไม่มีใครรู้  , วีด ในตอนนี้นั้น เป็นผู้ที่สามารถสร้างความเสียหาย ได้มากกว่านักรบสายดาบเสียอีก
.
.
.
วีด ยิ้มให้กับพลังที่เพิ่มขึ้น 20% จากมนต์ของ ไอรีน และรู้สึกทะมัดทะแมงมากขึ้น
คุณเสียพลังชีวิต230 หน่วย
(-230 Life)
วีด ปล่อยให้ลิซาร์ดแมนตัวหนึ่งโจมตีเขา  ซึ่งเขาบาดเจ็บน้อยลงเพราะผลจากพรศักดิ์สิทธิ์ของ ไอรีน   ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า เธอเพิ่มความเชี่ยวชาญในสกิลนี้มา
'เพราะแบบนี้แหละ เราถึงชอบการเล่นแบบปาร์ตี้'

.
.
.
.
.
อาชีพ พรีส นั้นเป็นที่เคารพและถูกให้ความสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เนื่องจากความสามารถที่โดดเด่นของพวกเขา  ซึ่งต่อให้ความเชี่ยวชาญในทักษะจะยังไม่มากก็ตาม ทุกๆปาร์ตี้ก็ยังต่างกระตือรือล้นในการชักชวนพวกเขา
ไอรีน นั้นมุมานะพัฒนาทักษะเพื่อทดแทนเลเวลที่ไม่สูงนักของเธอ  ซึ่งเธอเป็นตัวแปรที่สำคัญมากในการออกล่ามอนสเตอร์
ทักษะพันแผลที่ วีด เรียนรู้มานั้น จะมีประโยชน์เฉพาะในการต่อสู้ ซึ่งเทียบไม่ได้กับมนต์หัตถ์แห่งการรักษาของ พรีส ซึ่งเหมาะสมกว่ามาก
.
.
.

หลังจากดุ วีด ไปเล็กน้อยแล้ว ไอรีน ก็ยิ้มเล็กๆออกมา
"แต่ก็สมกับเป็นคุณ วีด ที่ชอบพุ่งเข้าใส่มอนเลยนะคะ"
วีด นั้นไม่เคยหันหลังหนีมอนสเตอร์ที่เข้ามาหาเขา - เพราะพวกมันคือค่า EXPs สุดที่รักของเขานั่นเอง!
ยกเว้นกรณีที่เขาเห็นว่ามอนสเตอร์ตัวนั้นยากเกินกว่าจะต่อกรด้วยที่เลเวลขณะนี้
ซึ่งหากนอกเหนือจากนั้นแล้วเขายินดีที่จะโดดลงไปในฝูงมอนสเตอร์และ เริ่มการสังหารโหดอีกครั้ง

ในขณะที่ วีด เคลื่อนที่ขยับแขนขยับขาไม่หยุดราวกับคนบ้าคลั่ง
เขารู้สึกถึงอิสระเสรี  เขาได้รับค่าประสบการณ์  เพิ่มเลเวล รวบรวมไอเท็มและพัฒนาทักษะ
ทุกขั้นตอนที่กล่าวมานั้น เขารู้สึกสนุกมากและเป้าหมายของเขานั้นมักจะคุ้มค่ากับเหงื่อและเลือดทุกหยดที่เขาเสียไป
ทั้งก่อนหน้านั้นอย่างในเกม The Continent of Magick  และในตอนนี้ในเกม เส้นทางแห่งราชันย์
วีด มักจะเป็นคนแรกที่เข้าไปเผชิญหน้าต่อสู้กับมอนสเตอร์เสมอ
.
.
.
"ทริปเปิ้ล!  แบ็คสแตป!"
ทันทีมานาของเขาฟื้นฟู  วีด ก็เรียกใช้ทักษะต่อสู้ของเขาทันที เพราะเป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการทำความเข้าใจทักษะพวกนี้
แม้ว่ามานาจะถูกฟื้นฟูจนพอใช้ แต่กระนั้น

 คุณผิดพลาดในการเรียกใช้ทักษะ!
(You failed to activate the skill!)
เมื่อค่าความชำนาญในหลายๆทักษะต่อสู้ของ วีด นั้นเกือบจะเป็นศูนย์  เขาจึงมักจะผิดพลาดในการเรียกใช้ทักษะอยู่บ้าง
เมื่อวิชาดาบไม่ถูกใช้ออกมา  เขาจึงติดสตันและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ชั่วขณะหนึ่ง
วีด  ไว้วางใจในเพื่อนร่วมทีมของเขา  และพยายามเรียกใช้ทักษะต่อสู้ออกมาเรื่อยๆ
เขารู้สึกสบายใจที่รู้ว่ามีคนคอยระวังหลังให้เขา
.
.
.
การโจมตีอันไร้เทียมทานของ วีด จัดการพวกลิซาร์ดแมนภายในพริบตา
.
.
.
"....."
เมื่อการต่อสู้จบลง  เพื่อนร่วมทีมของเขา มองมาด้วยความงุนงงตกตะลึง
พวกเขาเครียดมากในการเผชิญหน้ากับลิซาร์ดแมนห้าตัว  แต่มันกลับจบลง ก่อนที่ เซอร์กะ และ เพล จะได้ลงมืออย่างจริงจังด้วยซ้ำ
"คุณ วีด คะ ทักษะนั่นมัน..."
"ยังกับใส่สูตรเลย"
เพล กับ เซอร์กะ พูดออกมาเกือบพร้อมกัน
"เอ่อ...คือว่า.."  วีด อ้ำอึ้ง
"คุณเลเวลเพิ่มขึ้นตั้งเยอะ  ชั้นคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องพึ่งพวกเราด้วยซ้ำ" โรมุเนะ บอกออกมา
"ไม่จริงหรอกครับ" วีด ส่ายหัว
"ขนาดท่าที่เบาที่สุด มันก็ใช้มานาผมอย่างน้อยสามร้อยหน่วยเลยนะ ดังนั้นผมจึงใช้ได้ติดต่อกันแค่ไม่เกินสามครั้งเท่านั้นเอง"
"จริงเหรอคะ?"
"เรายังมีมานาทั้งหมดแค่ 230 หน่วยเอง นั่นหมายความว่าแค่ครั้งเดียวเรายังใช้ไม่ได้เลย  ถ้างั้นคุณ วีด คุณมีมานาเท่าไหร่เหรอถึงใช้ได้ตั้งสามครั้ง?" เพล ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"เก้าร้อยนิดๆ เองครับ" วีด บอก
"โอ้ พระเจ้า"  เพล ตกตะลึง

ทั้งอาชีพ เมจ อย่าง โรมุเนะหรือ พรีส อย่าง ไอรีน มีมานาแค่ราวๆ ห้าร้อยหน่วยเท่านั้น
ซึ่งปริมาณมานาของพวกเธอนั้นก็ถือว่าเหนือกว่าปริมาณมานาตามระดับเลเวลที่ควรมีแล้ว
แต่ปริมาณมานาจำนวนมหาศาลที่ วีด บอกมานั้น ทำให้พวกเธออ้าปากค้าง
วีด สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เขาไปพบเจอมาให้เพื่อนร่วมทีมฟัง
ภารกิจเปลี่ยนอาชีพเป็น ประติมากรแสงจันทร์ในตำนาน (The Legendary Moonlight Sculptor) ของเขานั้นเกินกว่าที่ใครจะอธิบายได้
ผู้เล่นทั่วไปจะเลือกอาชีพแรกของตนเมื่อตอนราวๆเลเวลห้า
แต่ที่นี่ตอนนี้มีชายผู้เปลี่ยนอาชีพเป็นประติมากรตอนเลเวล 68 หลังจากฟันฝ่าผ่านการลองผิดลองถูกนับไม่ถ้วน และเพิกเฉยต่อทุกๆแนวทางเดิมที่มี
.
.
.

เพล ถอนหายใจ
"คุณไม่ใช่แค่ประติมากรแล้ว  แต่คุณคือประติมากรแสงจันทร์  ซึ่งเป็นอาชีพลับ   ไม่ยักรู้ว่าคุณคือช่างแกะสลักที่กำลังโด่งดังในเมือง"
"โด่งดัง?"   วีด ถามกลับ
"พวกเราได้ยินว่ามีชายหนุ่มที่ทำรูปแกะสลักและขายมันอยู่แถวใจกลางเมือง  เลยอยากซื้อบ้าง  แต่ว่าพวกเราไม่มีเงินค่ะ"  ไอรีน บอกออกมา

เธอมอง วีด ด้วยสายตาที่ปรารถนาบางอย่าง  ซึ่งไม่ว่าใครก็คงบอกได้ว่าคืออะไร
" ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังพวกคุณนะ แต่ว่า..เอาอย่างนี้ ไว้ผมจะทำให้พวกคุณคนละชิ้นเลยละกัน"
"ขอบคุณมากค่าคุณ วีด!"
"ขอบคุณค่ะ"
"ถ้าคุณไม่ว่าอะไร เราขอชิ้นนึงละกัน" เพล กล่าว
วีด ให้สัญญาว่าจะทำรูปสลักให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ของเขาทุกคน
"เอาล่ะ ตอนนี้พวกเราก็พักพอแล้ว  ออกไปเตะก้นพวกลิซาร์ดแมนกันเถอะ  ภารกิจนี้มีเส้นตายอยู่ดังนั้นพวกเราควรรีบทำให้สำเร็จก่อนมันจะสายเกินไป"
"ได้เลย"
.
.
.
วีด นำทางเพื่อนร่วมทีมของเขาตะลุยพวกลิซาร์ดแมนตลอดทาง ซึ่งส่วนใหญ่  วีด จะเปิดด้วยการโจมตีที่สร้างความเสียหายมากแก่ศัตรู และ เพล กับ เซอร์กะ ก็จัดการที่ เหยื่อที่วีด เหลือไว้อย่างรวดเร็ว
โรมุเนะ นั้นรับผิดชอบในการจัดการกับลิซาร์ดแมนหนึ่งหรือสองตัวที่อยู่ห่างไปเกินกว่าคนอื่นๆจะจัดการได้
ส่วนที่เหลือนั้นจะถูกกำจัดโดย วีด กับ เซอร์กะ ในขณะที่คนอื่นๆ พักฟื้นมานา
การร่วมมือในยุทธวิธีการต่อสู้ของพวกเขานั้นเป็นไปได้ด้วยดี
จากที่เคยจัดการจิ้งจอก หมาป่าและหมีมามากมาย  ทิ้งขนและเนื้อไว้เบื้องหลัง  และตอนนี้เหยื่อก็เปลี่ยนมาเป็นลิซาร์ดแมนอย่างไม่ต้องสงสัย
ความเร็วในการล่านั้น เร็วกว่าที่ วีด ออกล่าด้วยตัวคนเดียว
เมื่อวีดและเพื่อนร่วมทีมของเขาอยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน
ซึ่งตรงข้ามกับปฏิบัติการกวาดล้างใน ถ้ำสัตว์ร้ายแห่งลิตวาร์ต กับพวกทหารโรเซนไฮม์
นั่นหมายความว่าค่าประสบการณ์ที่ได้รับนั้น ถูกแบ่งกันอย่างเท่าเทียม
วีด ไม่จำเป็นต้องเน้นโจมตีแต่ศัตรูที่ใกล้ตายอีกต่อไป
ซึ่งหากเป็นแบบเดิม ถ้า วีด ยืนขี้เกียจ เขาก็จะได้รับส่วนแบ่งค่า EXPs เพียงน้อยนิดเท่านั้น
แต่นั่นไม่ใช่ วีด
.
.
.
"ว้าว สัตว์เลื้อยคลานพวกนี้รวยกว่าที่เห็นเนอะ?" เซอร์กะ ร้องอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นไอเท็มดร็อป
ออกมาจากลิซาร์ดแมนที่ถูกกำจัด
ถุงมือเหล็ก เกราะอก นอกจากนั้นยังมีแหวน...

แหวนมานา (Mana Ring):
เมื่อสวมใส่ : เพิ่มระดับมานาสูงสุดอีก3% (+3% มานา)

มันเป็นครั้งแรกที่ปาร์ตี้นี้ ได้เห็นเครื่องประดับอย่างแหวน
"ใครจะเอาชิ้นนี้ดี?"

เมื่อ เซอร์กะ กล่าวออกมา  ทุกๆคนต่างมองไปซึ่งกันและกัน
แต่สุดท้ายแหวนมานาก็ตกอยู่ในครอบครองของ  ไอรีน เพราะพวกเขาเห็นว่าการต่อสู้จะปลอดภัยกว่าเมื่อ พรีส มีมานามากพอจะสนับสนุนพวกเขา

กฎของการแบ่งของที่ได้มาในปาร์ตี้คือ ใครที่หยิบไอเท็มได้ก็เอาไป  แต่แร์ไอเท็มนั้นจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของสมาชิก ส่วนไอเท็มเบ็ดเตล็ดอื่นๆ จะนำไปขายที่ร้านของชำ**

มันดูเหมือนจะเป็นกฎที่ไม่มีเหตุผล แต่พวกเขาเห็นว่ามันยอมรับได้เพราะเหมาะกับเป้าหมายของปาร์ตี้ของพวกเขา
ทันทีที่พวกเขาเริ่มต้นต่อสู้  พวกเขาก็จะตะลุยไปจนสุดทาง ดังนั้นเมื่อพวกเขาตัดสินใจทะลวงเข้าไปในรังของพวกลิซาร์ดแมน  การต่อสู้ย่อมไม่จบจนกว่าพวกเขาจะฆ่าลิซาร์ดแมนตัวสุดท้ายที่ยืนอยู่
ถ้าพวกเขาเลือกให้ใครคนใดคนหนึ่ง เป็นคนเก็บไอเท็ม มันย่อมทำให้เกิดปัญหาแบกน้ำหนักเกินได้  ด้วยเหตุดังกล่าวนั้น  พวกเขาจึงแบ่งให้ทุกๆคนช่วยกันเก็บไอเท็มจนกว่าจะถึงขีดจำกัดของน้ำหนัก

วีด กับ เซอร์กะ ที่มีบทบาทหลักในการต่อสู้นั้น มักจะเป็นสองคนสุดท้ายที่จะได้หยิบไอเท็ม
ด้วยความที่ว่า ถ้าพวกเขาไม่ได้แบกน้ำหนักไอเท็มเลย การต่อสู้ย่อมไปได้สวยเหมือนที่ผ่านๆมา


เล่มที่ 2 ตอนที่ 1 จบ

****************

ที่มา :
http://writer.dek-d.com/grit/story/viewlongc.php?id=837140&chapter=13

2 ความคิดเห็น: